แม้ว่าการกำหนดให้วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน เป็น “วันอัลกุดส์สากล” โดยท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ผู้นำแห่งการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน จะผ่านพ้นมาเป็นเวลา 38 ปีแล้วก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ต่างๆ ในปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นในโลกและในภูมิภาคตะวันออกกลางนั้น ทำให้สัมผัสได้ถึง ความจำเป็นของการสถาปนาวันที่ยิ่งใหญ่นี้ โดยเฉพาะสำหรับชาวมุสลิมในโลกอิสลาม มากกว่าช่วงเวลาใดๆที่ผ่านมา
Tasnimnews – ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ผู้สถาปนารัฐอิสลามอิหร่าน หลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน ท่านได้ออกคำสั่งปิดสถานทูตอิสราเอลในกรุงเตหะราน และแทนที่ด้วยการเปิดสถานทูตปาเลสไตน์ ท่านอิมาม (ร.ฮ.) รู้ถึงเป้าหมายต่างๆ ของรัฐบาลระบอบเถื่อนไซออนิสต์ที่มีต่อโลกอิสลามและธาตุแท้ของบรรดารัฐบาลหุ่นเชิดอาหรับได้เป็นอย่างดี บรรดารัฐบาลที่ต้องการรักษาการดำรงอยู่และคงไว้ซึ่งสถานะของตน และเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนอุ้มชูอย่างเต็มที่จากสหรัฐอเมริกา จึงทำการรับใช้ทั้งเปิดเผยและลับอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้เป้าหมายต่างๆ ของอิสราเอลบรรลุผล
อุดมคติแห่งอัลกุดส์ต้องคงอยู่ในจิตสำนึกของมวลมุสลิมตลอดไป
ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) เพื่อที่จะให้อุดมคติแห่งอัลกุดส์ ซึ่งเป็นทิศกิบลัตแรกของมวลมุสลิม คงอยู่ในความคิดและจิตสำนึกของประชาชนผู้แสวงหาเสรีภาพของโลกให้มีชีวิตชีวาตลอดไป ท่านจึงได้กำหนดให้วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนเป็นวันอัลกุดส์สากล เพื่อให้ชาวมุสลิมผู้ถือศีลอดได้ถือว่าความพยายามแห่งการปลดปล่อยแผ่นดินอัลกุดส์ (เยรูซาเล็ม) นั้นเป็นหนึ่งในหน้าที่ภาคอิบาดะฮ์ของตน เช่นเดียวกับการนมาซ การถือศีลอดและการประกอบพิธีฮัจญ์ ณ บัยตุลลอ-ฮิลฮะรอม เนื่องจากว่า หากปล่อยให้ระบอบที่ยึดครองไซออนิสต์ และบรรดารัฐบาลอาหรับผู้ขายตัว และให้การสนับสนุนอิสราเอลอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะทำให้ชนชาติมุสลิมทั้งหลายในภูมิภาคต้องนอนจมอยู่ในกองเลือด และก่อให้เกิดสงครามการเข่นฆ่าพี่น้องเกิดขึ้นทั่วทุกมุมของประเทศต่างๆ ในโลกอิสลาม เหมือนดั่งในวันนี้ ที่เรากำลังเห็นในหลายประเทศ ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ที่พวกเขาต้องสูญเสียความหมายที่แท้จริงของการทำอิบาดะฮ์ต่างๆ ของอิสลามไป
วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน เป็นวันที่ภารกิจอันหนักหน่วงได้ถูกวางลงบนบ่าของประชาชาติมุสลิมทั้งมวลโดยปราศจากพิธีริตรองและการอ่อนข้อทางการทูต เพื่อที่จะยืนหยัดต่อต้านและเผชิญหน้ากับบรรดาผู้ยึดครองอัลกุดส์และบรรดารัฐบาลจอมเผด็จการ รวมทั้งผู้ที่ได้ปล้นอำนาจการปกครองในโลกอาหรับทุกคน ด้วยการหลอกลวงประชาชนด้วยชื่อของศาสนา มัซฮับและเสรีภาพของชนชาติทั้งหลาย และกล่าวอ้างว่าขบวนการเคลื่อนไหวมุกอวะมะฮ์ทั้งหลายเช่น ฮิซบุลลอฮ์ และขบวนการต่างๆ ในปาเลสไตน์นั้นเป็นตัวปัญหา
อิสราเอลและสหรัฐฯส่งตัวแทนให้ฮิซบุลลอฮ์วางอาวุธหลังสงคราม 33 วัน
เนื่องในวันอัลกุดส์ที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่เราจะมารับรู้และชี้ให้เห็นถึงตัวอย่างที่ชัดเจนหนึ่งของการทำตัวเป็นขอทานและการเป็นทาสรับใช้ของบางรัฐบาลในภูมิภาค ต่อระบอบไซออนิสต์ที่ยึดครองอัลกุดส์ หลังจากชัยชนะของฮิซบุลลอฮ์ที่มีเหนือรัฐบาลอิสราเอลในสงคราม 33 วัน เมื่อปี 2006 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์อันเป็นประวัติการณ์ในสงครามต่างๆ ระหว่างอาหรับและอิสราเอล เพราะฮิซบุลลอฮ์ ถือเป็นอาหรับเจ้าแรกที่ทำสามารถพิชิตชัยเหนืออิสราเอลได้ รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี(ในเวลานั้น)และกาตาร์ได้เดินทางไปยังกรุงเบรุต เพื่อเข้าพบกับซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน และขอต่อซัยยิดนัศรุลลอฮ์ว่า ตอนนี้โลกก็พากันยอมรับแล้วถึงชัยชนะที่ชัดเจนของฮิซบุลลอฮ์ ดังนั้นขอให้กองกำลังมุกอวิมัตวางอาวุธเถิด และนับจากนี้ไปให้บรรดาเยาวชนของ ฮิซบุลลอฮ์เลบานอนหันหน้าเข้ามาสู่กิจกรรมต่างๆ ทางสังคมและทางเศรษฐกิจ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ รู้ทันถึงเจตนาของสองนักการทูตที่ถูกส่งมาโดยรัฐบาลไซออนิสต์นี้ ท่านจึงได้ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอแนะดังกล่าว
ยื่นข้อเสนอให้บัชชาร อัลอะซัด ตัดสัมพันธ์กับอิหร่านและหยุดสนับสนุนอาวุธแก่ฮิซบุลลอฮ์ แลกกับเช็คสีขาว
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง อดีตประมุขของกาตาร์ในระหว่างการพบปะกับประธานาธิบดีบัชชาร อัลอะซัด ของซีเรีย ได้ยื่นขอเสนอว่า ในกรณีที่ตัดความสัมพันธ์กับอิหร่านและหยุดให้การสนับสนุนทางด้านอาวุธแก่ฮิซบุลลอฮ์แล้ว เราจะมอบเช็คสีขาวให้แก่เขา ทว่าเมื่อข้อเสนอต่างๆ ของอิสราเอลและสหรัฐฯถูกปฏิเสธอย่างหนักแน่นจากฮิซบุลลอฮ์และบัชชาร อัลอะซัด สงครามเต็มรูปแบบจึงถูกกำหนดขึ้นที่ซีเรียและนำประเทศนี้ไปสู่ความพินาศ
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองในภูมิภาคบางคนเชื่อว่า เป้าหมายต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล ในการจุดไฟวิกฤตในอ่าวเปอร์เซียในขณะนี้ เป็นไปเพื่อทำให้ประชาชนในประเทศต่างๆ ในโลกอิสลาม หมกมุ่นอยู่กับปัญหาภายในต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาต่ออุดมคติที่แท้จริงแห่งอัลกุดส์…..