สื่อเยอรมันรายงาน – ผู้ก่อการร้ายหญิงเป็นความท้าทายใหม่สำหรับหน่วยงานความมั่นคงยุโรป!

การเพิ่มจำนวนของผู้ต้องสงสัยในหมู่ผู้หญิงในยุโรป ได้สร้างความท้าทายใหม่ให้กับหน่วยงานความมั่นคงของยุโรป

450
Photo Source: http://www.express.co.uk/news/uk/633746/Women-joining-ISIS-Syria-from-UK-rise-chilling-figures-show

หนังสือพิมพ์เยอรมนี Handelblasts ระบุในรายงานว่า นับจากกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในดินแดนที่ถูกยึดครองต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ ผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่ทยอยกันกลับยุโรป และจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้องค์กรในยุโรปจำต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ คือ ผู้ก่อการร้ายที่เป็นเพศหญิง เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปรากฎความท้าทายจากกรณีดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมในยุโรปมาก่อน

นอกจากนี้ ประเด็นผู้ก่อการร้ายหญิง ยังชี้ให้เห็นอักว่า พวกเขากำลังแสวงหาเป้าหมายสำคัญทางศาสนาและการเมืองของตน ด้วยความรุนแรงที่น่ากลัว

เมื่อไม่นานมานี้ กองกำลังความมั่นคงอิรักในเมืองโมซูลสามารถจับกุมนักรบฮิญาดหญิงชาวเยอรมันสี่คนในหมู่ผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายไอซิส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตกตะลึงอย่างมากให้กับทางการเยอรมัน ทำให้เยอรมนีต้องหันมาคิดว่า อะไรคือปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจและความหวัง ที่เป็นเหตุผลให้บรรดาผู้หญิงเหล่านี้ยอมละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนอันสุขสบายของตน และเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอซิส อีกทั้งปัญหาที่แก้ไม่ตกเกี่ยวกับ ยอดจำนวนของผู้เข้าร่วม ซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

หนังสือพิมพ์เยอรมนีฉบับนี้เขียนเสริมว่า ในอดีตที่ผ่านมา มีรายงานเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิง ซึ่งเข้าร่วมกับองค์กรก่อการร้ายนี้น้อยเป็นอย่างมาก ขณะที่ล่าสุด ผู้ก่อการร้ายหญิงชาวเยอรมันสี่คนถูกจับกุมตัวในเมืองโมซูลอิรัก นอกจากนั้นในหมู่ผู้ก่อการร้ายดังกล่าวยังมีผู้ก่อการร้ายหญิงจากตุรกี รัสเซีย แคนาดา เชชเนีย ลิเบียและซีเรีย

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ได้มีการจับกุมตัวเด็กสาววัย 16 ปี ชาวเยอรมันในหมู่สมาชิกผู้ก่อการร้ายที่ถูกจับกุมตัวได้ ซึ่งเธอได้หนีออกจากเยอรมนีเมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา และได้ร่วมสมทบกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในอิรัก ซึ่งก่อนที่จะเข้าร่วมนั้น เธอได้เข้ารับศาสนาอิสลามแบบสุดโต่ง

เยอรมันเป็นพื้นที่ที่เอื้ออำนวยสำหรับการดึงดูดกลุ่มก่อการร้ายที่สุด ตามสถิติของหน่วยงานข่าวกรองในประเทศเยอรมนีระบุว่า มีชาวเยอรมนีกว่า 930 คนได้เดินทางไปยังอิรักและซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสหรือให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งในจำนวนนั้น ร้อยละ 20 เป็นผู้หญิง อันเป็นจำนวนที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ หนึ่งในสามของพวกเขายังได้เดินทางกลับไปยังประเทศเยอรมนี และอีก 70 คน ยังคงอยู่ในกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ที่มีแผนการเคลื่อนไหวเพื่อลอบสังหาร หัวหน้าตำรวจ Europol (ตำรวจยุโรป)

ทั้งนี้ จึงได้ออกมาเตือน เกี่ยวกับภัยคุกคามใหม่ในสหภาพยุโรป โดยเป็นที่คาดการณ์ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีสมาชิกไอซิสในอิรักและซีเรียประมาณ 2,500 คนกลับไปยังยุโรป และมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า วิธีการก่อการร้ายหลายๆอย่างที่ได้เรียนรู้จากไอซิสนั้นจะถูกนำไปใช้ในยุโรป

คำเตือนของตำรวจ Europol ชเกี่ยวกับประเด็นนี้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะเมื่อปีที่ผ่านมา ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อการร้ายได้เป็นจำนวนประมาณ 718 ราย ซึ่งประมาณหนึ่งในสี่ของพวกเขาเป็นผู้หญิง

เมื่อพิจารณาถึงระดับอายุที่ลดลงและการเพิ่มขึ้นของผู้ก่อการร้ายหญิงในยุโรป หัวหน้าตุลาการสหภาพยุโรปเชื่อว่า จำเป็นต้องมีวิธีการใหม่และพิเศษเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความเสี่ยงดังกล่าว และแน่นอนว่าไม่เพียงแต่ยุโรปเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ที่ท้าทายนี้ แต่ทุกๆภูมิภาคก็กำลังตกอยู่ในความท้าทายเช่นกัน เพราะผู้หญิงไอซิส ยังเป็นภัยคุกคามต่อประเทศในทวีปอื่นๆด้วยเช่น อินโดนีเซีย

“ซิดนีย์ โจนส์” ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการวิเคราะห์ความขัดแย้งในกรุงจาการ์ตากล่าวว่า ผมเชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาใหม่ ไม่เพียงแต่ในประเทศอินโดนีเซีย แต่มันยังรวมถึงประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดด้วย

รายงานดังกล่าวยังเขียนเสริมว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจในมุมมองของโลกตะวันตก เนื่องจากว่าในมุมมองของพวกเขา สตรีที่มีจิตอาสานั้นมักจะเชื่อมตรงไปยังองค์กรที่บังคับและละเมิดสิทธิของพวกเขา ทว่าแรงจูงใจของผู้หญิงในการเข้าร่วมกับไอซิส ที่จริงแล้วมันก็เหมือนกับแรงจูงใจของบุรุษเพศ อันได้แก่ ความต้องการผจญภัย ความคลุมเคลือที่มีต่อหลักศาสนา ความอคติที่มีต่อศาสนิกชนอื่น และการได้รับเกียรติในศาสนแบบสุดโต่ง

สองผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยตะวันตกเชื่อว่า กองกำลังความมั่นคงยุโรปมีความพร้อมที่เป็นลบ เมื่อคำนึงถึงการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของผู้ก่อการร้ายเพศหญิง โดยชี้ว่า การตรวจสอบผู้หญิงจะไม่ทำอย่างละเอียดเหมือนกับผู้ชาย

ในช่วงท้ายของรายงานชิ้นนี้ ยังระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารามได้ทำงานอย่างมีเป้าหมายในการดึงดูดบรรดาผู้หญิงมาเป็นแนวร่วมและผู้ปฏิบัติการ เนื่องจากว่า การดำเนินการก่อการร้ายของผู้หญิงจะตกอยู่ภายใต้ความสงสัยน้อยกว่าผู้ชาย

Source: tasnimnews.com