สงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดขึ้นหรือไม่ – เกิดขึ้นอย่างไร และใครคือผู้ชนะ ?

882

ความตึงเครียดทางทหาร ระหว่างมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ของโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเดือนที่ผ่านมา

ฤาการสำแดงอำนาจของ คิม จ็อง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือด้วยการทดสอบขีปนาวุธ และภัยคุกคามจากสหรัฐอเมริกา คือสัญญาณของการปะทะกันทางทหารครั้งใหญ่?

สงครามโลกครั้งที่สาม จะเกิดขึ้นหรือไม่ ?

ความตึงเครียดระหว่างอเมริกา รัสเซีย จีนและเกาหลีเหนือยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน

คิม จ็อง อึน  ในวันที่ 4 กรกฎาคมและวันประกาศอิสรภาพของอเมริกาได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก  ขณะที่ในวันเปิดตัว ผู้นำเกาหลีเหนือหัวเราะและกล่าวว่า “ชาวอเมริกันจะไม่มีความสุข เกี่ยวกับของที่ระลึกที่ถูกส่งไปยังพวกเขาในโอกาสครบรอบของการเป็นอิสระของอเมริกาเมื่อวันที่สี่ของเดือนกรกฎาคม บางครั้งจะต้องส่งของขวัญให้กับพวกเขาบ้าง เพื่อช่วยให้พวกเขาเอาชนะความเบื่อหน่ายและความกระวนกระวาย”

เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธ Hvasvng 14 (Hwasong-14) ซึ่งกล่าวกันว่าขีปนาวุธดังกล่าว สามารถยิงไปถึงใจกลางแผ่นดินอเมริกาได้ โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนว่า “พฤติกรรมที่ไม่ดี” ของเกาหลีเหนือจะทำให้เกิด “ผลกระทบที่ร้ายแรง” ตามมา

ผู้นำเกาหลีเหนือได้ทำสงครามน้ำลายอีกครั้งหลังจากที่รัฐสภาอเมริกาเสนอให้มีการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่ และอ้างว่า “สหรัฐฯยินดีต้อนรับการตายของพวกเขา” และด้วยการโจมตีครั้งเดียว พวกเขาก็สามารถจะ “ถูกทำลาย” ลงได้

เกาหลีเหนือ ในปี 2016 นอกจากได้ละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับ การยกเลิกการทดสอบอาวุธทุกชนิดแล้ว ยังได้ดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์สองลูกและยิงขีปนาวุธ 24 ครั้ง

ในปีนี้ หนึ่งในการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ล้มเหลว กล่าวคือ ขีปนาวุธระเบิดทันที หลังจากถูกยิงออกจากฐาน

เกาหลีเหนือยังได้ตอบโต้ไปยังระเบิดนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นอีกด้วยว่า มันเป็นเรื่อง “ง่ายมาก” และทุกคนที่ให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในการเป็นศัตรูกับเกาหลีเหนือ จะต้องตกอยู่ในเป้าหมายของเราอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังข่มขู่ว่า “สงครามนิวเคลียร์สามารถเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาใดก็ได้” แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่าเกาหลีเหนือ จะไม่เป็นฝ่ายเปิดการโจมตีก่อน เพราะแน่นอนจะต้องเจอกับการตอบโต้ของอเมริกาอย่างหนัก ซึ่งจะทำให้พวกเขาเอาตัวไม่รอด

เกาหลีเหนือยังขู่สหรัฐฯในการเข้าสู่สงครามนิวเคลียร์เสมอ และอ้างว่ามหาอำนาจอย่างสหรัฐฯกลัวขีปนาวุธของ คิม จ็องอึน

หลังจากการสิ้นสุดลงของสงครามเย็นที่ยาวนาน และการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ดูเหมือนว่าสงครามระหว่างรัสเซียและจีนก็ถูกทำลายลงเช่นเดียวกัน

แต่ทว่าความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างอำนาจทางทหารระหว่างประเทศ กลับชี้ให้เห็นว่า ความขัดแย้งทั่วโลกมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา กองทัพอากาศของอเมริกาได้เปิดเผยรายงานกรณีที่มีเครื่องบินรบสองลำของอเมริกาบินเหนือคาบสมุทรเกาหลีเพื่อตอบโต้โดยตรงไปยังการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ยังมีรายงานเปิดเผยว่า ทรัมป์กำลังพิจารณาประเด็นการโจมตีเกาหลีเหนือ

ในกรณีที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม   จะมีการเริ่มต้นอย่างไร ?

การปรากฏตัวของรัสเซียและอเมริกาในสงครามซีเรียได้สร้างสถานการณ์ในลักษณะที่ว่า เครื่องบินของทั้งสองประเทศในการดำเนินภารกิจของพวกเขาเสี่ยงอันตรายและบินใกล้ชิดกัน

หลังจากที่เครื่องบินรบซีเรียถูกกองทัพเรือสหรัฐฯสอยร่วง รัสเซียได้ออกมาเตือนในเดือนมิถุนายนว่า จากนี้ไป เราจะกำหนดเป้าหมายไปยัง ทุกเครื่องบินรบของพันธมิตรระหว่างประเทศที่จะบินข้ามแม่น้ำยูเฟรติสตะวันตกในซีเรีย

หากสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดขึ้น ดูเหมือนว่ารัสเซียอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของมัน และแน่นอนว่าพื้นที่หลายร้อยไมล์ที่ห่างจากซีเรียก็จะลุกเป็นไฟ

ผู้เชี่ยวชาญบางคน อ้างว่าลัตเวียเป็นประเทศแรกที่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สาม

ศาสตราจารย์ พอล มิลเลอร์ (Paul D Miller )  จากมหาวิทยาลัยการป้องกันแห่งชาติในกรุงวอชิงตัน ได้คาดการณ์ว่าจะมีการยึดครองแหลมไครเมีย และเกิดความขัดแย้งในยูเครน โดยกล่าวว่าเป้าหมายต่อไปของรัสเซียคือประเทศในแถบบอลติก

แต่ปูตินจะไม่ใช้กองทัพแบบดั้งเดิมในการนี้ และจะดำเนินการในรูปลักษณะคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนอีกครั้ง ด้วยการยั่วยุกลุ่มรักบ้านเกิดเชื้อสายรัสเซียที่อยู่ในประเทศ

หลังจากที่รัสเซียขู่ว่าจะสอยเครื่องบินรบของพันธมิตรระหว่างประเทศเหนือน่านฟ้าตะวันตกของซีเรีย โดยในรายงานอ้างว่าในเดือนมิถุนายน เครื่องบินรบ Su-27  รัสเซียมีการเคลื่อนไหวที่อันตรายมาก โดยบินในระยะทาง 5/1 เมตรชิดกับเครื่องบินลาดตระเวน RC 135 ของอเมริกา ในน่านฟ้าบอลติก  หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทหารของอเมริกาถือว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการยั่วยุและบ้าบิ่น

ใครจะชนะในสงคราม?

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะสงคราม แต่ทว่าอเมริกามีการลงทุนด้านการทหารมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั้งหมด

อเมริกาเป็นประเทศเดียวที่มีเครื่องบินรบ -รุ่นที่ห้า F-22 และ F-35 ที่ยังไม่ได้ออกมาทำการทดลองอีก

รัสเซียกำลังผลิตเครื่องบินรบล่องหน และจีนก็กำลังดำเนินการผลิตเครื่องบินรบรุ่นใหม่อีกสี่ลำ

ด้านล่างพื้นผิว  อเมริกามีกองทัพเรือเรือดำน้ำ 14 ลำ สามารถแบกจรวดขีปนาวุธและหัวขีปนาวุธนิวเคลียร์ 280 ลูก

นอกจากนั้นกองทัพเรืออเมริกายังมีเรือดำน้ำ 4 ลำที่สามารถแบกจรวดขีปนาวุธนำวิถี  พร้อมกับขีปนาวุธ Tamhavk 154 ลูก  และมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ในครอบครองอีกจำนวน  54 ลำ

รัสเซียมีขีปนาวุธใต้น้ำเพียง 60 ลูก แต่กล่าวว่าพวกเขามีการพัฒนาความสามารถในด้านนี้อย่างต่อเนื่อง

พวกเขายังมีการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์พลังนิวเคลียร์ Tvrpdv (ตอร์ปิโด) อีกกว่า 100 ลูก

ประเทศจีนมีเรือดำน้ำโจมตีนิวเคลียร์ 5 ลำ  มีเรือดำน้ำดีเซล 53 ลำ และมีเรือดำน้ำที่สามารถแบกจรวดขีปนาวุธนิวเคลียร์อีก 4 ลำในครอบครอง

ทั้งนี้มหาอำนาจแห่งแผ่นดินใหญ่ อย่างจีน เช่นเดียวกัน มีการพัฒนาความสามารถและศักยภาพของตนอย่างต่อเนื่อง

Source: parstoday