หลังจากที่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสพ่ายแพ้ในเมืองโมซูล พวกเขาจึงต้องคิดหาวิธีการใหม่ในการโจมตีหรือก่อการร้าย อะไรคือกลยุทธ์ใหม่ของกลุ่มก่อการร้ายนี้ ?
อายุขัยของรัฐบาลกำมะลอในอิรักนั้นแสนสั้นเสียเหลือเกิน นับจากที่ประกาศตนว่าเป็นรัฐอิสลาม นายอบูบักร์ อัลบักดาดีที่รับช่วงต่อจากอบูอุมัร ได้ประกาศตนเป็น คอลีฟะฮ์ โดยหวังใช้เป็นกลยุทธ์ในการหลอกลวงชาวมุสลิม เพราะหนึ่งในอุดมการณ์ของอิสลาม คือ การจัดตั้งรัฐอิสลาม
เหมือนในอดีต เมื่อสมัยออตโตมาน ก็มีการจัดตั้งรัฐอิสลาม โดยผู้ปกครองทำการสถาปนาตนเองเป็นคอลีฟะฮ์ ซึ่งในระยะเวลาประมาณสามปีที่ผ่านมา นายอบูบักร์ได้ประกาศตนอย่างเป็นทางการที่มัสยิดกลาง “ อัลนูรี” ในเมืองโมซูลของอิรัก แต่เมื่อกลุ่มก่อการร้ายนี้รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ ก็บุกเข้าทำลายมัสยิดดังกล่าวจนราบเป็นหน้ากลอง โดยไม่หลงเหลือสภาพอันสวยงามของมัสยิดโบราณแห่งนี้เลย
อีกทั้งทางรัฐบาลอิรักก็ประกาศว่า จะมีการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายนี้ให้หมดไปจากอิรัก โดยเฉพาะในเมืองโมซูล ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ในอิรัก กล่าวได้ว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสนั้น มีศูนย์บัญชาการสองแห่งด้วยกัน คือ แห่งแรกอยู่ในอิรักก็คือในเมืองโมซูลและอีกแห่งหนึ่งก็คือในซีเรีย ในเมืองรักกาห์
หลังจากที่กองทัพของอิรักได้ปลดปล่อยเมืองโมซูลและนายกรัฐมนตรีอิรักก็ประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มก่อการร้ายแล้ว กลุ่มเหล่านี้จึงต้องหาวิธีการในการโจมตีหรือก่อการร้ายในรูปแบบใหม่ และอะไรคือกลยุทธ์ใหม่ของกลุ่มก่อการร้ายนี้ ?
เมืองโมซูลเป็นเมืองที่นายอาบูบักร์ อัลบักดาดี ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายไอซิสยึดเป็นฐานที่มั่นในการจัดตั้งรัฐอิสลาม และเขายังทำให้เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางในการบัญชาการของเขาในตะวันออกกลาง อีกทั้งยังมีการเผยแพร่แนวความคิดในการก่อการร้ายอีกด้วย
หลังจากการปลดปล่อยเมืองโมซูลได้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเป็นการตีแสกหน้ากลุ่มก่อการร้ายไอซิสอย่างหนักหน่วง รวมถึงยังได้เป็นการทำลายหลักความเชื่อและแนวความคิดสุดโต่งอันนี้อีกด้วย และหลังจากที่เมืองโมซูลได้รับการปลดปล่อยนั้น กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวนี้ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ในการก่อการร้าย ซึ่งในขณะนี้พวกเขาได้เปลี่ยนจากการยึดครองพื้นที่เป็นการลอบวางระเบิดและการระเบิดพลีชีพแทน
กลุ่มก่อการร้ายนี้ได้สร้างความหวาดกลัวอย่างมากโดยที่พวกเขาสามารถปฏิบัติการก่อการร้ายต่างๆได้ ทั้งในพื้นที่ๆอยู่ภายใต้การยึดครองของตนเองและในพื้นที่อื่นอีกด้วย
ตามรายงานของเพนตากอนชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายต่างชาติที่เข้ามาสมทบกับกลุ่มไอซิส เมื่อปีที่ผ่านมานั้นมีจำนวน 2000 กว่าคน แต่ในช่วงต้นปีนี้กลับลดลงเหลือเพียง 200 คนเท่านั้น ในขณะเดียวกันนี้ นักรบต่างชาติที่ได้กลับภูมิลำเนาตัวเองในยุโรปก็ยังได้สร้างเครือข่ายการก่อการร้ายขึ้นมาอีกด้วย
ในขณะนี้กลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้ประสบปัญหาในการเผชิญหน้ากับนักรบฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักด้วยเหตุนี้ กลุ่มก่อการร้ายไอซิส จึงมีการเชิญชวนสมาชิกของกลุ่ม ให้หันไปปฏิบัติการก่อการร้ายทั่วโลกแทน และเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีการก่อการร้ายในยุโรปเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่ได้ร่วมมือกับสหรัฐฯในการต่อต้านพวกเหล่านี้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของยุโรปได้กล่าวว่า นักรบเหล่านี้ได้แฝงตัวกับประชาชน และยังได้สร้างสถานการณ์ที่เลวร้ายขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายไอซิสกำลังเห็นการล่มสลายของตนเองในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในอิรักและซีเรีย จึงต้องใช้กลยุทธ์ใหม่ นั่นคือการก่อการร้ายทั่วโลก เหมือนที่มันเกิดขึ้นมาแล้วในกรุงบรัสเซลส์และกรุงปารีสและเช่นเดียวกัน กลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้เคลื่อนย้ายเหล่านักรบที่ผ่านการฝึกฝนอย่างดีที่รอดตัวจากอิรักและซีเรียเข้าไปในใจกลางยุโรปโดยแฝงตัวไปกับกลุ่มผู้อพยพ
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้ลงมือกระทำสิ่งเหล่านี้แล้ว และคาดว่าการโจมตีในยุโรปจะเพิ่มมากขึ้น
หลังจากการล่มสลายของกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรีย กลุ่มก่อการร้ายนี้ก็หันไปร่วมมือกับนักรบในกลุ่มอื่นๆ โดยกลุ่มหลักที่พวกเขาไปสมทบคือ กลุ่มอัลกออิดะห์ อีกทั้งกลุ่มเหล่านี้ยังพยายามที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของอิสลามนั้นน่ากลัวและสุดโต่ง
นอกจากนี้ ในอีกด้านหนึ่ง ประเทศที่กำลังระส่ำระสาย เช่น ลิเบีย ก็กำลังจะกลายเป็นที่หมายปองของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เมื่อไม่นานมานี้ พวกไอซิสบางส่วนก็เข้าไปประจำการที่นั่น และได้กลายเป็นอีกฐานที่มั่นหนึ่งของพวกเขา และในบางประเทศ เช่น อียิปต์ เยเมน และซาอุดิอาระเบีย ก็ต่างตกเป็นเป้าหมายต่อไปของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในอนาคตอีกด้วย
เห็นได้ว่าบรรดานักรบกลุ่มก่อการร้ายไอซิสนั้นมีหลายสัญชาติด้วยกัน อาหรับ อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน จีน เชชเนีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน และยุโรป และอีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุนี้ หลังจากการพ่ายแพ้ของกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรีย เหล่านักรบอาหรับจึงเดินทางเข้าไปในประเทศแถบอาหรับ เช่น ลีเบีย โซมาเลีย ส่วนพวกที่มาจากเอเชียกลาง เช่น อุซเบกิสถานและทาจิกิสถานก็ต้องรอคำสั่งการจากแกนนำของกลุ่ม จึงได้เดินกลับยังภูมิลำเนา ดังนั้นด้วยกับปัจจัยที่สำคัญเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่า หลังจากการพ่ายแพ้ของกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรีย ถึงแม้พวกเขาจะสูญเสียพื้นที่ยึดครองไป แต่พวกเขายังคงมีความสามารถเคลื่อนย้ายเหล่านักรบไปที่อื่นได้
การปฏิบัติการแบบไม่มีพื้นที่ในการยึดครอง
การกระจายกองกำลังไปทั่วทั้งโลกคือหนึ่งในกลยุทธ์ใหม่ของกลุ่มไอซิส ซึ่งในขณะนี้พวกไอซิสก็สามารถแทรกซึมเข้าไปใน 20 กว่าประเทศแล้ว หากจะกล่าวถึงแผนที่ทางภูมิศาสตร์ของกลุ่มไอซิส ทั้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือนั้น เราสามารถแบ่งออกได้ 3 รูปแบบด้วยกัน คือ กลุ่มประเทศที่ไอซิสสามารถเข้ายึดครองพื้นที่ได้บางส่วน กลุ่มประเทศที่ไอซิสเข้าไป โดยที่ไม่ได้มีการยึดครองพื้นที่ และสุดท้าย กลุ่มประเทศที่ไอซิสเข้าไปปฏิบัติการในการก่อการร้าย
การใช้กลยุทธ์ สุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์
หนึ่งในกลยุทธ์ที่คาดว่ากลุ่มไอซิสจะนำมาใช้ หลังจากพ่ายแพ้ทางทหาร คือกลยุทธ์ “สุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์” ซึ่งกลยุทธ์นี้มีลักษณะพิเศษหลายอย่าง เช่น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนในการปฏิบัติการ ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก กองกำลังที่จะใช้ก็มีจำนวนไม่มากนัก ทั้งนี้บรรดาผู้ก่อการร้ายยังสามารถเลือกเวลาและสถานที่ในการปฏิบัติการได้ด้วยตนเอง
การปฏิบัติการจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วฉับพลัน อีกทั้งในการตรวจจับก็เป็นไปได้ยาก และยังใช้อุปกรณ์ในการก่อการร้ายแบบง่ายๆ เช่น รถยนต์ อาวุธเบา เป็นต้น ดังนั้น เราสามารถกล่าวได้ว่า หลังจากที่กลุ่มไอซิสได้สูญเสียฐานที่มั่นของตนเองไป พวกเหล่านี้ก็จะเล็งเป้าหมายใหม่ นั่นคือการก่อการร้ายทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศแถบยุโรป ตุรกี รัสเซีย และกลุ่มประเทศที่ร่วมต่อต้านการก่อการร้าย และในขณะนี้ หลายประเทศแถบยุโรปก็กำลังมีความหวาดกลัวในการเดินทางกลับภูมิลำเนาของไอซิสชาวยุโรป
