สำนัก ข่าวเพรสทีวี รายงานว่า ศาลบะห์เรน ได้ตัดสินประหารชีวิตผู้ประท้วงชีอะฮ์หนึ่งคน โดยอ้างว่า บุคคลดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารตำรวจหนึ่งนายเมิ่อปีที่แล้ว และยังตัดสิน ให้จำคุกตลอดชีวิตอีก 6 คน
ทั้งนี้ ศาลพิพากษาดังกล่าว ยังได้ตัดสินจำคุกผู้ประท้วงอีกสองคน เป็นเวลา ๕ ถึง ๖ ปี โดยข้อหาเดียวกัน ซึ่งตำรวจผู้เสียชีวิตมีนามว่า นาย มูฮัมมัด อาติฟ เสียชีวิต ในวันที่ ๑๔ เดือน เมื่อปี ๒๐๑๓
ตาม รายงานของสำนักข่าวอื่นๆ นายตำรวจที่เสียชีวิต คนดังกล่าว ได้เสียชีวิต จากการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง กับ กลุ่มตำรวจ บริเวณ ใกล้เมืองมะนามะฮ
ซึ่ง การประท้วงของผู้ต้องหาในคดีนี้ ถูกพิพากษา จากกลุ่ม ที่ถูกเรียกว่า “การประท้วงอย่างผิดกฎหมาย” ในการตัดสินประหารชีวิตผู้ประท้วงชีอะฮนั้น มีความไม่ถูกต้องบางประการ เพราะ โดยปกติแล้ว กฎหมายประหารชีวิตในบะฮเรน จะลดหย่อนผ่อนโทษ ให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต
และ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทางศาลดังกล่าว ยังได้ตัดสิน จำคุก ผู้ประท้วง เป็นระยะเวลา ๑๕ ปี ด้วยข้อหา มีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารตำรวจอีกด้วยเช่นกัน
การ ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในบะฮเรน เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ๒๐๑๑ ถูกในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งเป็นมุสลิมนิกายชีอะฮ ถูกตัดสินจำคุก และประหารชีวิต อยู่เสมอ ซึ่งตามรายงานของสำนักข่าวอื่นๆนั้น ในขณะนี้ ตัวเลขของผู้ถูกคุมขัง ซึ่งรวมทั้ง สตรี และเด็กๆ สูงขึ้นถึง ๓ พันคนแล้วในขณะนี้
นอกจาก นี้ กองกำลังทหารของซาอุดี และเอมีเรตยังได้ เข้าสมทบกับกองกำลังของอาลีคอลีฟะฮ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ปี ๒๐๑๑ เพื่อทำการปราบปราม กลุ่มผู้ประท้วง อย่างรุนแรง
กลุ่มประท้วงเหล่านี้ ต้องการปฏิรูปประเทศ และ ปฏิรูประบบการปกครอง
รายงาน ของแหล่งข่าวภายในประเทศ ระบุว่า มีจำนวน ประท้วงกว่าสิบคนที่เสียชีวิต จากการประท้วง และยังมี อีกนับร้อยคนที่ถูกจับกุม ในขณะนี้