ใกล้วันครบรอบ 40 ปีแห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม ในอิหร่าน(11กพ) สื่อเยอรมันได้ถือว่าการปฏิวัตินี้เป็นหนึ่งในการปฏิวัติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อโลกอิสลาม
เว็บไซต์วิทยุเยอรมันได้สำรวจผลกระทบต่อภูมิภาคจากการปฏิวัตินี้โดยเขียนว่า “ระยะ 40 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ.1979 (พ.ศ.2522) การโค่นล้มอำนาจที่เกิดขึ้นในอิหร่าน นำมาสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในนามการปฏิวัติอิสลาม โดยมี อยาตุลลอฮ์ โคมัยนีและขบวนการอิสลามของเขาได้บรรลุสู่อำนาจในอิหร่านและได้ขับไล่ระบอบสมบูรณญาสิทธิราช และส่งผลต่อการเปลี่ยนโลก
“Susanne Schröter” ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาโลกอิสลามในแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt Research Center on Global Islam – FFGI) กล่าวในเรื่องนี้ว่า การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านมีผลกระทบอย่างมากต่อโลกอิสลามและไม่เพียงแต่โลกชีอะฮ์ แต่ยังมีผลกระทบต่อโลกซุนนีด้วย
ซุนนีและชีอะฮ์ซึ่งทั้งสองเป็นกลุ่มอิสลามที่สำคัญ โดยปกติมักจะมีความขัดแย้งกันถึงกระทั่งเป็นศัตรูที่หลั่งเลือดกัน แน่นอนว่าความสำเร็จของชีอะฮ์ในอิหร่านได้นำไปสู่การลืมความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายร้อยปีเหล่านี้
“Susanne Schröter” ได้กล่าวต่อว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ผู้ปกครองเผด็จการ หมายถึง กษัตริย์ชาห์ผู้ซึ่งขึ้นสู่อำนาจในอิหร่านโดยการช่วยเหลือและการสนับสนุนต่างๆ อย่างกว้างขวางจากตะวันตกนั้น. ได้ถูกโค่นอำนาจลง การปฏิวัตินี้แม้แต่ในประเทศซุนนีทั้งหลายก็ได้รับความสนใจจากบรรดานักเคลื่อนไหว แม้ว่าบางครั้งจะก่อให้เกิดปัญหาสำหรับพวกเขาก็ตาม แต่พวกเขาก็มีจุดร่วมและมีความสัมพันธ์กับชาวชีอะฮ์
นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว หลายประเทศซุนนีในภูมิภาค ยังคงใช้ระบอบปกครองแบบเผด็จการที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก รัฐบาลเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่ในทัศนะของผู้คนจำนวนมากแล้วยังไม่ถือเป็นรัฐอิสลามอีกด้วย เพราะในหว้งเวลาเดีนวกันนั้น รัฐบาลเหล่านี้ได้ปราบปรามขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามจำนวนมาก แน่นอนการปฏิวัติที่ประสบความสำเร็จในอิหร่านได้สร้างความหวังให้แก่ขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามต่างๆ ให้เชื่อว่าจะสามารถเอาชนะระบอบเผด็จการที่น่ารังเกียจของประเทศ
การปฏิวัติครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้บรรดานักกิจกรรมทางศาสนามีการรณรงค์ต่อสู้ทางการเมืองตามแนวทางของศาสนา เนื่องจากกล่าวกันว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงแล้วในอิหร่านและคำขวัญต่างๆ ที่ได้เผยแพร่ออกไปทั่วโลกด้วยถ้อยคำสั้นๆ ก็คือว่า อิสลามคือแนวทางในการแก้ปัญหา” และเกิดวาทกรรมหลากหลาย : “การปฏิวัติในอิหร่าน ในความเป็นจริงแล้วเป็นช่วงเวลาการเกิดของอิสลามทางการเมืองอย่างที่เราทราบกันทุกวันนี้”
“Susanne Schröter” ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า : “ แม้กระทั้งในปัจจุบันนี้ในหลายประเทศอิสลาม เราจะเห็นบรรดานักเคลื่อนไหวทางการเมืองจะพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ใช่ ในอิหร่านถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นชาวชีอะฮ์ แต่สิ่งที่พวกเขาได้กระทำไปนั้นก็เป็นสิ่งเดียวกับที่พวกเราต้องการ แต่ไม่มีขบวนการเคลื่อนไหวของอิสลามใดๆ ในช่วงหลายปีและหลายทศวรรษมานี้ที่ได้ก่อตัวขึ้นตามตัวอย่างและแบบอย่างของอิหร่านที่ประสบความสำเร็จเท่ากับการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน
“Susanne Schröter” ได้ย้ำว่า แน่นอนว่าการปฏิวัติครั้งนี้ทำให้นักการเมืองจำนวนมากต้องตกตลึงและพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
https://www.deutschlandfunk.de/iran-1979-ein-autoritaeres-regime-folgte-dem-naechsten.886.de.html?dram:article_id=439536
https://www.tasnimnews.com/fa/news/1397/11/09/1934846/%DA%AF%D8%B2%D8%A7%D8%B1%D8%B4-%D8%B1%D8%B3%D8%A7%D9%86%D9%87-%D8%A2%D9%84%D9%85%D8%A7%D9%86%DB%8C-%D8%AF%D8%B1%D8%A8%D8%A7%D8%B1%D9%87-%D8%AA%D8%A7%D8%AB%DB%8C%D8%B1%D8%A7%D8%AA-%D8%AC%D9%87%D8%A7%D9%86%DB%8C-%D8%A7%D9%86%D9%82%D9%84%D8%A7%D8%A8-%D8%A7%D8%B3%D9%84%D8%A7%D9%85%DB%8C