การโจมตีฐานทัพอากาศ Ein al-Assad ของอเมริกาในอิรัก มันเป็นการโจมตีฐานทัพสหรัฐอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
การโจมตีฐานทัพอากาศ Ein al-Assad ของอเมริกาในอิรัก นอกจากมันเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้และการแก้แค้นของอิหร่านสำหรับการลอบสังหารนายพลกอเซ็ม สุไลมานี แล้ว มันยังจะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เนื่องจากเป็นการโจมตีฐานของสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
การโจมตีฐานทัพเรือกองทัพสหรัฐฯในอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ บนเกาะโอวาฮู รัฐฮาวาย โดยเครื่องบินรบของญี่ปุ่นอย่างฉับพลัน นำไปสู่การทำสงครามโลกครั้งที่สอง แต่หลังจากสงครามได้สิ้นสุดลง ยังไม่มีรัฐบาลใดที่ทำการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯอีกเลย
การยิงขีปนาวุธของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามต่ออาชญากรรมก่อการร้ายอเมริกา บนพื้นฐานนี้ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่สามารถยัดเยียดความอัปยศให้กับอเมริกาผู้อ้างตนเป็นมหาอำนาจโลกจอมปลอม
ฐานทัพ Ein al-Assad เป็นฐานทัพอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิรัก ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัด Anbar ทางตะวันตกของอิรัก เป็นฐานเป็นกลยุทธ์และยุทธ์ศาสตร์สำหรับสหรัฐอเมริกาที่ใช้เป็นฐานที่ตั้งของโดรนสหรัฐฯ
เริ่มต้นยุคใหม่
ในอีกแง่มุมหนึ่ง การโจมตีดังกล่าวมันคือเหตุการณ์ที่เริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ แม้ว่าเพนตากอนจะออกมายืนยันว่าฐาน Ein Al-Assad นั้นอยู่ในความพร้อมเต็มที่แต่ระบบเรดาร์ของสหรัฐฯและอุปกรณ์อื่น ๆไม่สามารถสกัดขีปนาวุธของอิหร่านได้
ทั้งนี้ ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้กล่าววันนี้(พุธ)ว่าในการตอบโต้ทางทหารต่ออาชญากรรมของอเมริกันด้วยการยิงขีปนาวุธนี้มันเป็นเพียงแค่ การ “ตบ” หน้าสหรัฐอเมริกาเบาๆ และ “สิ่งสำคัญในการนี้คือต้องขับไล่อเมริกาให้ออกไปจากภูมิภาคนี้”
มีหลักฐานบ่งชี้ว่าความผิดพลาดของสหรัฐฯในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลอบสังหารผู้บัญชาการนายพลกอเซ็ม สุไลมานี ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิภาครวมถึงแรงกดดันให้กองกำลังสหรัฐออกไปจากภูมิภาค ตัวอย่างเช่นรัฐสภาอิรักลงมติในสัปดาห์นี้เพื่อให้รัฐบาลถอนกองทหารสหรัฐออกจากอิรัก
สิ่งที่สร้างความชัดเจนยิ่งขึ้นในความสำคัญของมติรัฐสภาอิรักก็คือว่า มีการนำเสนอร่างมตินี้มาหลายครั้งก่อนหน้านี้ในรัฐสภาแต่ได้บทสรุป เจ้าหน้าที่ฝ่ายมุกอมิวัตได้พูดซ้ำ ๆ ถึงความจำเป็นที่จะต้องต่อต้านสหรัฐผู้สวาปามในอิรักแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหลังจากไอซิสผ่ายแพ้ผ่านไปแล้วหนึ่งปีกว่า ไม่เพียงแต่กองทหารสหรัฐออกไปจากอิรัก แต่เรายังเห็นการถ่ายโอนกองทหารสหรัฐฯประจำการในซีเรียไปยังอิรักอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากการลอบสังหารนายพลกอเซ็ม สุไลมานีและอบู มะฮ์ดี อัลมุฮันดิส เสมือนเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้รัฐบาลและรัฐสภาอิรักพิจารณาการถอนทหารสหรัฐออกไปจากอิรัก
วอชิงตันมีการปูทางสำหรับการปรากฏตัวซึ่งมีอิทธิพลในภูมิภาคและอิรักมากขึ้นหลังจากการลอบสังหารแกนนำของกลุ่มมุกอวิมัตและคิดว่าได้กำจัดขวากหนามไปหมดสิ้นแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันเป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงและการปฏิบัติการก่อการร้ายครั้งนี้ก่อให้เกิดชนวนสู่การขับไล่ทหารอเมริกาออกไปจากอิรัก
การเสียชีวิตของนายพลกอเซ็ม สุไลมานี ทำให้สมการในภูมิภาคเปลี่ยนแปลงไปสำหรับสหรัฐฯ เหมือนกับบรรดานักคิดชาวตะวันตกได้ทำนายเอาไว้ว่ามันเป็นการปูทางไปสู่การถอนทหารสหรัฐอเมริกาออกจากภูมิภาคทั้งหมด
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ในอิรัก สามารถมองเห็นได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิภาค และทุกคนกำลังเฝ้าจับตามองว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในภูมิภาคนี้
source: