CNN รายงาน ตัวชี้วัดและแผนภูมิ 6 ข้อ ที่แสดงถึงความไม่เท่าเทียมและการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติระหว่างครัวเรือนคนสีขาวและผิวสี
การฆาตกรรมอย่างโหดร้ายของ จอร์จ ฟลอยด์ พลเมืองอเมริกันผิวสีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวที่นำไปสู่การประท้วงอย่างกว้างขวางทั่วสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดกันอีกครั้งหนึ่งในการเหยียดผิว ความแตกแยกและการเลือกปฏิบัติระหว่างคนผิวขาวและผิวสีในสหรัฐฯ
นอกเหนือจากการลอบสังหารจอร์จ ฟลอยด์ จำนวนคนผิวสีที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มมากขึ้น ได้ดึงดูดความสนใจมากขึ้นต่อความไม่เท่าเทียมกันอย่างต่อเนื่องของความมั่งคั่ง รายได้และการดูแลสุขภาพในสหรัฐอเมริกา
วาเลอรี วิลสัน ผู้อำนวยการฝ่ายเชื้อชาติ ชาติพันธุ์และเศรษฐศาสตร์จากสถาบันการเมืองเศรษฐกิจอเมริกันกล่าวว่า “ ความไม่เท่าเทียมกันเหล่านี้ เป็นผลมาจากนโยบายของสหรัฐอเมริกาตลอดประวัติศาสตร์ที่ถูกกีดกันและใช้ประโยชน์จากคนผิวสีชาวอเมริกัน”
ซีเอ็นเอ็น ได้รายงานตัวชี้วัดและแผนภูมิหกข้อ ที่แสดงว่าสังคมผิวสีในสหรัฐอเมริกาที่ตกอยู่ภายใต้การเลือกปฏิบัติและการแบ่งแยกชนชั้นและเชื้อชาติ
1. ความมั่งคั่ง
ครัวเรือนคนผิวขาวในสหรัฐอเมริกา มักจะร่ำรวยกว่าครัวเรือนผิวสี ครัวเรือนคนผิวขาวมีค่าเฉลี่ยสุทธิประมาณสิบเท่าของคนผิวสี
จากข้อมูลของสถาบัน Brookings พบว่า ความมั่งคั่งของครอบครัวคนผิวขาวเมื่อเทียบกับคนผิวสีนั้นในปัจจุบันมีมากขึ้นกว่าเดิมกว่ายุคสมัยใดๆในสหรัฐอเมริกา
2. รายได้
ครัวเรือนผิวขาว โดยเฉลี่ยมีรายได้มากกว่าครัวเรือนผิวสี คนผิวขาวมีรายได้เฉลี่ย 71,000 เหรียญต่อปี ส่วนคนผิวสี มีรายได้ 41,000 เหรียญต่อปี
ซีเอ็นเอ็นรายงานเสริมว่า “นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ครัวเรือนผิวสีไม่สามารถเก็บออมได้และไม่สามารถสะสมความมั่นคั่งได้ ” อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2000 ข้อพิพาทรายได้ระหว่างคนผิวสีและคนผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวสเปนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3. การว่างงาน
อัตราการว่างงาน คนผิวสีจะมีมากกว่าคนผิวขาว จากข้อมูลของซีเอ็นเอ็นเผยว่า อัตราการว่างงานของคนผิวขาวอยู่ที่ 14.2% ในขณะที่คนผิวสีอยู่ที่ 16.7%
ในเดือนเมษายน 2020 อัตราการว่างงานของคนผิวสีอยู่ที่ 16.7% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010
4. ความยากจน
เมื่อเปรียบเทียบกับคนผิวขาวแล้ว คนผิวสีในอเมริกันจะมีส่วนแบ่งความยากจนในสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นสองเท่าตัว จากรายงานพบว่าอัตราความยากจนในกลุ่มคนผิวขาวอยู่ที่ 8.1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่คนผิวสีนั้น มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์
5. ประกันภัยและบริการด้านสุขภาพ
ในด้านของการดูแลสุขภาพและการประกันภัยด้านสุขภาพ คนผิวขาวมีส่วนแบ่งมากกว่าครอบครัวผิวสี ในขณะที่ชาวอเมริกันผิวขาวร้อยละ 5.4 ไม่ได้รับการประกันคุ้มครองและการดูแลสุขภาพ แต่ตัวเลขนี้ในหมู่ครัวเรือนผิวสี สูงถึง 9.7 เปอร์เซ็นต์
การระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐอเมริกาและการเพิ่มจำนวนของเหยื่อผู้เสียชีวิตและติดเชื้อในหมู่ชาวผิวสี ทำให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น
6. ไวรัสโคโรนา
ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น ในช่วงวิกฤตโคโรนาสัดส่วนของคนผิวสี ในจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา อยู่ที่ 23 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตของคนผิวขาวในจำนวนทั้งหมดของการเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ที่ประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์
นอกเหนือจากระบบการประกันภัยและการดูแลสุขภาพที่มีน้อยมากสำหรับคนผิวสี โรคที่สำคัญเช่น เบาหวาน โรคอ้วนและความดันโลหิตสูงนั้นพบได้ทั่วไปในคนผิวสี ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีรากฐานมาจากรายได้ที่ต่ำและความยากจนที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับคนผิวสี
source: farsnews