“สหรัฐอเมริกาไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องประชาธิปไตยในบ้านตัวเองได้ ก็ไม่สามารถอ้างว่าเป็นผู้นำประชาธิปไตยของโลกได้” สื่ออเมริกันแห่งหนึ่งเขียนบทความเพื่อตอบโต้การโจมตีของผู้สนับสนุนประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐสภา
Foreign Policy ตีพิมพ์ในบทความที่เขียนโดย Emma Ashford ได้ชี้ถึงการโจมตีของผู้สนับสนุนทรัมป์ต่อรัฐสภาสหรัฐฯและการยึดครองสภาคองเกรสเป็นเวลาหลายชั่วโมง และย้ำว่าประเทศที่ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องประชาธิปไตยที่บ้านได้ ก็ไม่สามารถอ้างว่าเป็นผู้นำประชาธิปไตยของโลกได้ “
ผู้เขียนบทความ ในช่วงต้นได้ทำการเปรียบเทียบเหตุการณ์ของวันพุธที่ 6 มกราคมกับการประท้วงอย่างกว้างขวางเช่น “อาหรับสปริง” และเขียนเสริมว่า “สำหรับคนทั่วโลกที่ได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นสหรัฐฯกลายเป็นสิ่งที่ผู้นำอเมริกันส่วนใหญ่ปฏิเสธ ประชาธิปไตยที่อ่อนแอซึ่งไม่สามารถป้องกันความรุนแรงและการนองเลือดระหว่างการถ่ายโอนอำนาจจากประธานาธิบดีคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้”
เขากล่าวเสริมว่า “ ความรุนแรงในวันพุธ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐฯทั่วโลกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามมันได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงในช่วงสี่ปีของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์”
อีกส่วนหนึ่งของบทความ ได้ชี้ถึงนโยบายต่างประเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์จลาจลในวันที่ 6 มกราคมในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐ และเน้นย้ำว่า: “การลุกฮือในวันพุธจะสร้างและรักษาเสถียรภาพของปัญหาสำคัญสองประการในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ (ประการแรก: “จะทำให้รัฐบาลอื่น ๆ ไม่เชื่อมั่นในพันธะสัญญาของสหรัฐฯตลอดจนความร่วมมืออย่างลึกซึ้งกับสหรัฐฯ ” (ประการที่สอง: “ความเป็นไปได้ที่ประเทศอื่น ๆ จะค่อยๆคิดว่าสหรัฐฯเป็นปัจจัยเสี่ยงมากกว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดเสถียรภาพในระบบระหว่างประเทศ”
ผู้เขียนบทความดังกล่าวยังได้สรุปช่วงท้ายว่า “มีอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ความกังวลเหล่านี้รุนแรงขึ้น คือ : การกระทำของสหรัฐฯในตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2011 ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคเช่นเดียวกับวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป นโยบายคว่ำบาตรของสหรัฐฯมักถูกประเทศอื่น ๆ เกลียดชังและเสียค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งกรณีความขัดแย้งของรัฐบาลทรัมป์กับอิหร่าน เกาหลีเหนือและแม้แต่จีนก็มีความไม่มั่นคงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามากกว่าการรักษาเสถียรภาพ ความเสี่ยงในการเป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกาในฐานะประเทศที่มีอำนาจทางทหารมหาศาลและมีนโยบายภายในประเทศที่ปั่นป่วนและไม่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นกว่าเดิมนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศอื่นจะละเลยและข้ามผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย”
source:tasnimnews