ผู้นำองค์กรมุสลิมอินโดฯ ประกาศไม่ยอมรับกลุ่ม“ไอเอส” ชี้พฤติกรรม“ต่อต้านอิสลาม”

1413


เอ เจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผู้นำองค์กรมุสลิมของอินโดนีเซีย ออกโรงในวันพุธ (6) ประณามกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรียที่แอบอ้างตนเองเป็น “ผู้นำโลกมุสลิม” ย้ำชัด แนวทางเคลื่อนไหวของพวกไอเอส ขัดต่อคำสอนของศาสนาอิสลาม

เต กูห์ ซันโตซา รองประธานองค์กรมุสลิม “มูฮัมมาดิเยาะห์” ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวของชาวมุสลิมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในแดนอิเหนา ออกคำแถลงประณามกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ “ไอเอส” ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในอิรักและซีเรีย ในเวลานี้ โดยระบุ พฤติกรรมของกลุ่มไอเอสที่ใช้ความรุนแรง และการสร้างความหวาดกลัวในการแผ่ขยายอำนาจ ถือเป็นการกระทำที่ “ขัดต่อหลักการที่แท้จริง” ของศาสนาอิสลาม และย้ำว่าการประกาศตัวของพวกนักรบมุสลิมนิกายสุหนี่หัวรุนแรงกลุ่มดังกล่าว ในการก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำโลกมุสลิม” นั้น เป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้

“เรา ขอประณามกลุ่มไอเอสที่ใช้ความรุนแรงและการสร้างความหวาดกลัว เป็นเครื่องมือในการขยายอำนาจ โดยอ้างศาสนาอิสลาม เราขอย้ำว่าการกระทำของพวกไอเอสขัดต่อหลักการทุกข้อของศาสนาของเรา และการที่พวกนักรบสุหนี่หัวรุนแรงเพียงหยิบมือแอบอ้างตนว่าเป็นผู้นำของโลก มุสลิมนั้น ถือเป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้ และขอให้ชาวมุสลิมทั่วโลกร่วมกันต่อต้าน” เตกูห์ ซันโตซา รองประธานองค์กรมุสลิม “มูฮัมมาดิเยาะห์” กล่าว

ซัน โตซา ซึ่งเป็นอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศประจำ “มหาวิทยาลัยอิสลามไซอาริฟ ฮิดายาตุลเลาะห์”ในกรุงจาการ์ตายังเรียกร้องให้ชาวอินโดนีเซียละเว้นจากการ เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงการให้การสนับสนุนทางการเงินและการเดินทางไปร่วมรบกับกลุ่มไอเอส ในอิรักและซีเรีย โดยระบุ กลุ่มอิสลามิสต์ดังกล่าวมีพฤติกรรมที่เข้าข่าย “ต่อต้านอิสลาม”

ก่อน หน้านี้ ลุคมัน ฮาคิม ไซฟุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาของอินโดนีเซียเพิ่งออกคำแถลงที่ระบุว่า รัฐบาลแดนอิเหนาจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด รวมถึงการเพิกถอนสัญชาติแก่พลเมืองอินโดนีเซียคนใดก็ตามที่ให้การสนับสนุนใน ทุกรูปแบบต่อกลุ่มไอเอส หลังมีรายงานของสื่อตะวันตกว่า พบพลเมืองอินโดนีเซียจำนวนหนึ่ง เดินทางออกนอกประเทศบ้านเกิดของตนเพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง ดังกล่าวในอิรักและซีเรีย

ทั้งนี้ อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากเป็นลำดับที่ 4 ของโลกถึงเกือบ 240 ล้านคน ได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของโลก และยังเป็นสมาชิกระดับนำขององค์กรความร่วมมืออิสลามหรือ “โอไอซี” ด้วยเช่นกัน

ขอบคุณข่าวจาก เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์