เยเมน — หนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก — เพียงในระยะเวลา 14 เดือนติดต่อกัน (สถิติ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2022) ต้องทุกข์ทรมานจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธ มากกว่า 4 ครั้ง ซึ่งเป็นการโจมตีไปยังพลเรือน ในชีวิตประจำวัน
รายงานของ Oxfam กลุ่มองค์กรการกุศลที่ทำงานเพื่อบรรเทาความยากจนทั่วโลก เปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศที่ดำเนินการ โดยกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดิอาระเบียนั้น ใช้อาวุธที่จัดหา โดยอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
รายงานพบว่า การใช้อาวุธเหล่านี้ คิดเป็นประมาณ 1/4 ของการโจมตีไปยังพลเรือนทั้งหมด ที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
นั่นหมายถึง การโจมตีที่คร่าชีวิต หรือ ทำให้บาดเจ็บ หรือ บีบบังคับให้ชาวเยเมน ต้องพลัดถิ่น เป็นจำนวนเกือบกว่า 1,700 ครั้ง
โดยที่ในระหว่างช่วงเดือนมกราคม 2021 ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2022 อย่างน้อยที่สุด สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ มีส่วนต้องรับผิดชอบ อาชญากรรมต่างๆ ดังนี้ :
– การเสียชีวิตของพลเรือน 87 ราย
– การบาดเจ็บของประชาชนอีก 136 ราย
– การโจมตีโรงพยาบาล คลินิก และรถพยาบาล 19 ครั้ง
– การโจมตีที่บังคับให้ประชาชนต้องลี้ออกจากบ้านเรือน 293 ครั้ง
– และอีก 39% ของการโจมตีทั้งหมด ที่ทำให้เกิดการพลัดถิ่น
ในทำนองเดียวกันนี้ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ยังกล่าวในทวิตเตอร์ อีกว่า:
“กว่า 70% ของประชาชนเยเมนในปัจจุบันต้องการความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม … โดยมีเพียง 51% ของสถานบริการด้านสุขภาพ ที่สามารถใช้งานได้”
“ในเยเมน ผู้หญิงและเด็กกว่า 4.7 ล้านคน เผชิญกับภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง”
จากข้อมูลดังกล่าว มาร์ติน บุชเชอร์ — ที่ปรึกษาด้านนโยบาย เกี่ยวกับอาวุธและความขัดแย้ง ของ Oxfam และผู้เขียนรายงานดังกล่าว ระบุว่า
“การวิเคราะห์ของเรา แสดงให้เห็นว่า มีรูปแบบของการใช้ความรุนแรงไปยังพลเรือน และทุกฝ่ายภายในความขัดแย้งนี้ ไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอ เพื่อที่จะปกป้องชีวิตของพลเรือน ซึ่งพวกเขามีหน้าที่ต้องทำมัน ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”
________
Source: Campaign Against Arms Trade (CAAT) via @ english.almayadeen