Press TV– ศาสตราจารย์ชื่อดังชาวอเมริกัน นอม ชอมสกี ชี้ การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ได้ลบล้างสงครามกลางเมือง และสองอาชญากรรมใหญ่ที่หลอมสังคมอเมริกัน หนึ่ง คือ ระบบทาส และสองคือการขุดรากถอนโคนชนพื้นเมืองของประเทศ
ตามที่ชอมกล่าวไว้ สหรัฐอเมริกาเป็นสังคมแห่งการเหยียดชนชาติ และคนเหยียดชนชาติเช่น โรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีคนที่ 40 แห่งสหรัฐฯ สังกัดริพับริกัน (ค.ศ. 1981-ค.ศ. 1989) ก็ได้กดขี่คนผิวดำให้กลับกลายมาเป็นทาสอีกครั้ง
ชอม ได้เน้น ในการ ให้สัมภาษณ์กับ เครือข่ายโทรทัศน์อเมริกัน Grit (American TV network Grit) ซึ่งออกอากาศในวันอังคาร ขณะแสดงความคิดต่อการการพัฒนาล่าสุดของเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงกระหน่ำ เด็กวัยรุ่นผิวดำ ไร้อาวุธ อันเป็นการจุดประกายไฟความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อสิทธิมนุษยชนไปทั่วประเทศ
“นี่คือสังคมแห่งการเหยียดชนชาติ ผมหมายถึง มันค่อนข้างน่าตกใจ สิ่งที่เกิดขึ้น อย่างคร่าวๆ เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา เมื่อคำนึงถึง ชาวแอฟริกันอเมริกัน นั้นมีความคล้ายคลึงเป็นอย่างมาก ต่อสิ่งที่ Baptiste ได้อธิบายไว้ เมื่อท้าย ศตวรรษที่ 19,” ชอมสกีกล่าว
“การแก้รัฐธรรมนูญหลังจากสงครามกลางเมือง สมควรที่จะต้องปลดปล่อยชาวแอฟริกันอเมริกันให้เป็นไทจากการเป็นทาส ซึ่งรัฐธรรนมนูญที่ถูกแก้ไขนั้น ก็ดำเนินอะไรต่างๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอยู่บ้าง ประมาณ 10 ปี แต่แล้ว ก็มีข้อสัญญาจากทางตะวันตกเฉียงใต้แทรกเข้ามา ซึ่งโดยหลักตามที่สัญญาว่าไว้ ได้อนุมัติให้ อดีตรัฐที่เคยครอบครองทาส มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ ตามที่ตนต้องการ และสิ่งที่พวกเขากระทำก็คือ การปฏิบัติต่อคนผิวดำเยี่ยงอาชญากร ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม และนั่นก็ได้สร้าง ชนิดของ ‘กลุ่มแรงงานทาส’ โดยการโยนชาวผิวสีทั้งหญิงและชาย เข้าไปในคุก ที่ซึ่งพวกเขากลายเป็นกำลังแรงงานอย่างสมบูรณ์ ยิ่งกว่าการเป็นทาสเสียอีก” ชอม ตั้งข้อสังเกต
“ถ้าคุณเป็นเจ้าของทาส คุณจะต้องจ่ายเพื่อให้ ‘ทุน’ ของคุณมีชีวิต หากรัฐจ่ายให้คุณ (คือเป็นนักโทษ) นั่นถือว่ายอดเยี่ยม มันจะไม่มีการนัดหยุดงาน ไม่มีการละเมิด นี่คือแรงงานที่สมบูรณ์แบบ จำนวนมากของการปฏิวัติอุตสาหกรรมอเมริกัน ในช่วงปลายทศวรรษที่ 19 และ ต้นศตวรรษที่ 20 ก็มีพื้นฐานมาจากจุดนั้น จริงๆ มันกินเวลามามากพอสมควร ยาวจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สอง สำหรับความต้องการแรงงานที่ไม่ต้องจ้างเพื่ออุตสาหกรรมสงคราม” เขาชี้ให้เห็น
“หลังจากนั้นมาประมาณสองทศวรรษ ที่การเข้าสังคมอเมริกัน เป็นสิ่งที่ยากเข็นสำหรับชาวแอฟริกันอเมริกัน คนงานผิวดำก็เริ่มได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าทำงานได้ ในโรงงานรถยนต์ สหภาพแรงงานยังคงเดินเรื่องให้พวกเขาอยู่ พวกเขาสามารถซื้อบ้านหลังเล็ก ๆได้ ส่งลูกๆเข้าเรียนวิทยาลัยได้ แต่ภายในปี 1970 และ 1980 มันก็กลับเข้าสู่ยุคแห่งการ ป้ายอาชญากรรมแก่ชีวิตชนผิวดำ มันเรียกว่าสงครามยาเสพติด ซึ่งเป็น สงครามแห่งชนชาติ โรนัลด์ เรแกน เป็นคนหนึ่งที่เหยียดชนชาติเป็นอย่างมากที่สุด และเขาไม่ได้แอบสิ่งนี้เลย และสงครามยาเสพติดทั้งหมดก็ถูกออกแบบขึ้น ตั้งแต่วันที่ (เชลย) ถูกตำรวจจับ จนถึงวันที่ออกจากคุกในท้ายที่สุด เพื่อที่จะทำให้การเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอเมริกัน เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย สำหรับชุมชนของชายผิวดำ มากไปกว่านั้น คือแม้แต่หญิง และมากไปอีก คือรวมไปถึง ชาวละตินอเมริกัน” ศาสตราจารย์ ชอม สกี กล่าว
ศาสตราจารย์ยังชี้ให้เห็นอีกว่า “ถ้าคุณมองไปยัง ประวัติศาสตร์อเมริกัน ทาสกลุ่มแรกเข้ามาในปี 1619 และนั่นก็ ครึ่งสหัสวรรษ มันประมาณ 3 ถึง 4 ศตวรรษ ที่ชาวแอฟริกันอเมริกันถูกจำกัดระดับเสรีภาพของพวกเขา -ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็มีบ้าง- แน่นอนสำหรับชนผิวดำชั้นสูง พวกเขามีสิทธิพิเศษบางอย่าง แต่ผมกำลังพูดถึงมวลประชากรทั้งหลายแหล ที่ถูกป้ายอาชญากรรม และด้วยความบังเอิญ กลายมาเป็นแรงงานทาส หรือ แรงงานนักโทษ”
“นี่คือประวัติศาสตร์อเมริกัน และการตีตัวออกจากมันนั้น ไม่ถือเป็นอุบายที่ง่ายเลย ในความเป็นจริงลองมาดู หรือพูดถึง การเลือกตั้งครั้งล่าสุดสิ มันลบล้างสงครามกลางเมือง – รัฐสีแดงต่างๆ (รัฐที่มีการเสียงข้างมาก โหวตให้กับ พรรคริพับลิกัน) ถูกจัดตั้งเป็นสมาพันธรัฐ นี่คือการต่อสู้ที่แท้จริง ทั้งสองอาชญากรรมที่ถูกสร้างขึ้นมานี้ – หนึ่งคือ ระบบทาสและสอง คือ การขุดรากถอนโคนชนพื้นเมืองของประเทศ – มันเป็นสิ่งที่อยู่กับเราเป็นอย่างมาก ณ วันนี้” ชอมสรุป
GJH/GJH
โดย ดุอาอฺ กุเมล
