อัลอาลัม – เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ แห่งเลบานอน ปราศรัยระบุ ในวันนี้การดูหมิ่นท่านศาสดามีความรุนแรงมากขึ้นชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในวันนี้กลุ่มก่อการร้ายได้กลับคืนสู่ผู้สนับสนุนของมันแล้ว ตามที่มันเคยให้การสนับสนุนและเอื้อความสะดวกต่างๆนานาอย่างเปิดเผย
เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ (9ม.ค.) ที่ผ่านมา เนื่องในวันประสูติของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซล) และอิมามญะอ์ฟัรศอดิก(อ) ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ ได้กล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอลิงค์ โดยระบุว่า “ปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายเป็นการดูหมิ่นท่านศาสดา (ซล) ด้วยการตัดศีรษะผู้บริสุทธิ์นับพันคน มีการแพร่คลิปวิดีโอที่โหดร้ายป่าเถื่อนกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังได้ระเบิดสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เข้าร่วมงานเทิดเกียรติท่านศาสดามุฮัมมัด(ซล) ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก คิดหรือว่าพวกเขาเหล่านี้กำลังปกป้องศาสนาอันบริสุทธิ์ของท่านศาสดามุฮัมมัด(ซล)???”
เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ยังได้ชี้ถึงการแพร่ขยายในวงกว้างของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวในภูมิภาคนี้ นับจากอัฟกานิสถานถึงซีเรียและอิรัก ว่า “ในวันนี้การปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวได้กลับคืนสู่ผู้ให้การสนับสนุนของมันแล้ว ที่มันเคยให้การสนับสนุนและเอื้อความสะดวกต่างๆนานาอย่างเปิดเผย”
ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ กล่าวย้ำว่า “กลุ่มก่อการร้ายได้ดูหมิ่นศาสนาอิสลามและศาสดามูฮัมหมัดมากเสียยิ่งกว่าผู้ที่ตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนศาสนาอิสลาม โดยที่พวกเขาได้ทำการลบหลู่และดูหมิ่นท่านศาสดา (ซล) ในรูปแบบต่างๆ เพื่อทำลายเกียรติของท่านศาสดา ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ท่านถูกประกาศให้เป็นศาสดาอย่างเป็นทางการ จนถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย การดูหมิ่นเช่นนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์”
ซัยยิด นัศรุลลอฮ์ กล่าวเสริมว่า “ประชาชาติอิสลามจำต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายและต้องปฏิเสธความสัมพันธ์กับผู้ที่กล่าวอ้างว่าการปฏิบัติการของพวกเขามีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับอิสลาม”
“กลุ่มก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคทั้งในวันนี้และอนาคต และที่อันตรายยิ่งกว่านั้น คือเป็นภัยอันตรายต่อศาสนาอิสลาม ต่อท่านศาสดามุฮัมมัด (ซล) และอัลกุรอาน”
“การต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย หาใช่เป็นการปกป้องภูมิภาค รัฐบาลและยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทว่าเนื่องจากปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ที่เกิดขึ้นทั่วโลก มันเกินกว่าการปกป้องศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์ และสิ่งนี้เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคนที่ต้องยอมรับ” เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์กล่าว