หลังจากการปฏิวัติอิสลามในประเทศอิหร่านภายใต้การนำของ ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ)ประสบความสำเร็จ ท่านได้การประกาศให้วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนอันทรงเกียรติ เป็น “วันกุดส์สากล” หรือวันแห่งการปลดปล่อย “อัลกุดส์” กิบลัตแรกของมวลมุสลิมจากการยึดครองของยิวไซออนิสต์
ซึ่งนับแต่นั้นมา ทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนในทุกๆ ปี มวลมุสลิมทั่วทั้งโลกจะขานรับ คำประกาศของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) โดยการออกมาชุมนุมประท้วง และจัดงานรำลึกถึงอัลกุดส์อย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี
การประกาศให้วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนเป็น “วันกุดส์สากล” คือสิ่งจำเป็นประการแรกในทัศนะของท่านผู้นำการปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ เป็นหน้าที่ของมวลมุสลิมที่จะต้องปลดปล่อยอัลกุดส์ให้ออกจากการยึดครองของยิวไซออนิสต์
สาส์นการประกาศวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน เป็นวันอัลกุดส์สากล
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตาปราณีและกรุณายิ่งเสมอ
“ข้าพเจ้า ได้รับทราบถึงอันตรายของพวกอิสราเอลที่มีต่อมวลมุสลิมมาช้านาน ซึ่งในวันนี้พวกมันได้บุกโจมตีพี่น้องชาวปาเลสไตน์ของเราอย่างหนัก โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศเลบานอน เพื่อทำลายขบวนการนักต่อสู้แห่งปาเลสไตน์ มีการเข่นฆ่า และระเบิดทำลายอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัยของพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
ข้าพเจ้าขอเชิญชวนมวลมุสลิม และประเทศมุสลิมทั่วทั้งโลก รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนอันทรงเกียรติ เพื่อต่อต้านและหยุดยั้งการทำลายล้างของพวกอิสราเอล ซึ่งวันต่างๆ ในเดือนรอมฎอนคือวันแห่งพลังอำนาจ วันแห่งรัตติการแห่งอานุภาพที่สามารถจะกำหนดและชี้ชะตากรรมของพี่น้องชาวปาเลสไตน์ได้ ข้าพเจ้าขอประกาศให้วันดังกล่าวเป็น “วันอัลกุดส์สากล” และขอให้ทุกคนช่วยกันผลักดันวันอันยิ่งใหญ่นี้ไปสู่นานาประเทศ ให้เป็นวันสำคัญหนึ่งเพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิอันชอบธรรมของประชาชาติมุสลิมแห่งปาเลสไตน์ ขอพระองค์ทรงทำให้มวลมุสลิมมีชัยชนะเหนือผู้ปฏิเสธทั้งมวลด้วยเทอญ
วัสลามุอาลัยกุม วาเราะห์มะตุ้ลลอฮ์ ฮิวะบารอกาตุฮ์
(รูฮุลลอฮ์ มูซาวี โคมัยนี)
นอกจากสาส์นประกาศวันอัลกุดส์สากลโดยท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) แล้วตลอดการบรรยายของท่าน ท่านยังได้ชี้และเรียกร้องให้ประชาชาติอิสลามทั้งมวลให้ความสำคัญต่ออัลกุดส์ ซึ่งจะขอนำเสนอเนื้อหาคำบรรยายบางส่วนของท่านดังนี้
วันอัลกุดส์ คือวันแห่งอิสลาม วันแห่งเสรีภาพของปาเลสไตน์
วันอัลกุดส์คือวันสากล มิใช่วันสำหรับกุดส์เป็นการเฉพาะเท่านั้น มันเป็นวันแห่งการเผชิญหน้าระหว่างผู้ด้อยโอกาสกับผู้อหังการ มันเป็นวันแห่งการเผชิญหน้าของประชาชาติซึ่งอยู่ภายใต้การรีดนาทาเร้นขออเมริกาและชาติมหาอำนาจอื่นๆ มันเป็นวันแห่งการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจทั้งหลาย มันเป็นวันที่ผู้ด้อยโอกาสทั้งหลายต้องเตรียมพร้อมที่จะต่อกรกับพวกอหังการให้หน้าของพวกมันคะมำลงไปกับพื้น มันเป็นวันซึ่งแยกความหน้าไหว้หลังหลอกออกจากพวกที่แน่วแน่ทั้งหลาย พวกที่แน่วแน่มั่นคงรู้ว่าวันนี้คืออัลกุดส์ วันแห่งการปฏิบัติในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
วันอัลกุดส์ คือวันที่จะต้องท้วงติงไปยังมหาอำนาจว่าพวกเขาต้องวางมือจากบรรดาผู้ด้อยโอกาสและกลับไปอยู่ในที่ๆของตนเองได้แล้ว
วันอัลกุดส์ มิใช่เป็นวันของชาวปาเลสไตน์เท่านั้น แต่เป็นวันแห่งอิสลาม วันแห่งรัฐบาลอิสลาม ต้องเป็นวันที่ธงแห่งรัฐอิสลามถูกชักขึ้นสู่ยอดเสา เป็นวันที่ต้องทำให้พวกมหาอำนาจเข้าใจว่าพวกเขาไม่อาจเสนอหน้าอยู่ในประเทศอิสลามอีกต่อไป
ข้าพเจ้าเชื่อว่า วันแห่งอัลกุดส์ คือวันแห่งอิสลาม วันแห่งท่านรอซูลุลลอฮ์ เป็นวันที่เราจะต้องเตรียมพร้อมสรรพกำลังทั้งหมดของเรา
ในวันอัลกุดส์ ประชาชนทั้งหลายจักต้องส่งสัญญาณเตือนไปยังรัฐบาลของพวกเขาซึ่งเป็นผู้ทรยศ วันอัลกุดส์ คือวันที่เราจะเข้าใจว่าบุคคลใดหรือรัฐบาลใดที่เห็นด้วยการแผนการชั่วสากลและขัดแย้งกับอิสลาม คนที่ไม่ได้เข้าร่วมก็เท่ากับขัดแย้งกับอิสลาม เห็นด้วยกับอิสราเอล คนที่เข้าร่วมก็คือพวกที่หนักแน่นมั่นคงและเห็นดีเห็นงามกับอิสลม และปฏิเสธศัตรูอิสลาม ซึ่งหัวหน้าของคนพวกนี้คืออเมริกา และอิสราเอล มันคือวันแห่งการจำแนกสัจธรรมและโมฆะธรรม
ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่ออัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงประทานชัยชนะให้กับอิสลามแก่ชนทุกชั้นในโลกนี้ ให้บรรดาผู้ด้อยโอกาสมีชัยเหนือผู้อหังการทั้งหลาย ขอดุอาอ์ให้พี่น้องในปาเลสไตน์ ตอนใต้ของเลบานอน และทุกที่ที่พวกเขาอยู่ปลอดภัยจากเงื้อมมือของพวกอหังการและเงื้อมมือของพวกสวาปามด้วยเทอญ
การนิ่งเฉยและการอ่อนข้อต่ออิสราเอล
น่าประหลาดเสียแน่แท้ ยิ่งนานวันโศกนาฏกรรมเลือดของการรุกรานปาเลสไตน์ผ่านพ้นไปนานเท่าใด การนิ่งเฉย การอ่อนข้อของผู้ปกครองประเทศอิสลาม และการผูกมิตรกับอิสราเอลผู้รุกรานกลับเพิ่มมากขึ้น…. แม้กระทั่งการประกาศเชิญชวนและสโลแกนที่เกี่ยวข้องกับ บัยตุล มุก็อดดัส ไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทเลย หากไม่มีประเทศและประชาชนของประเทศหนึ่งซึ่งเหมือนกับอิหร่านที่ได้ลุกขึ้นมาสนับสนุนประชาชนปาเลสไตน์และกู่ก้องร้องตะโกน ทั้งๆที่ตนเองก็กำลังเผชิญหน้ากับการรุกราน สงคราม และการคว่ำบาตรอยู่ก็ตาม คนพวกนั้นกลับหันมารุมประณามและเป็นเดือดเป็นร้อน เมื่อมีการประกาศจัดงานวันหนึ่งขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “วันแห่ง อัลกุดส์”
อิสราเอล คือมะเร็งร้ายของตะวันออกกลาง
ทุกวันนี้ กิบละฮ์แรกของมุสลิมยังตกอยู่ในอาณัติของอิสราเอล มะเร็งร้ายของตะวันออกกลาง ทุกวันนี้พวกมันยังคงกดขี่บีฑาพี่น้องปาเลสไตน์ และเลบานอนของพวกเราอยู่ ทำให้พวกเขาต้องนอนจมเลือดอยู่ทุกวี่วัน ทุกวันนี้อิสราเอลยังคงสร้างความร้าวฉานด้วยสื่อแห่งมารทุกรูปแบบ จึงเป็นหน้าที่ของมวลมุสลิมทุกคนที่พวกเขาจักต้องตระเตรียมตัวเองให้พร้อมต่อกรกับอิสราเอล
ชัยชนะของพวกด้อยโอกาสเหนือพวกอหังการ
وَنُرِيدُ أَن نَّمُنَّ عَلَى الَّذِينَ اسْتُضْعِفُوا فِي الْأَرْضِ وَنَجْعَلَهُمْ أَئِمَّةً وَنَجْعَلَهُمُ الْوَارِثِينَ
ความว่า เราปรารถนาที่จะประทานความโปรดปรานเป็นพิเศษแก่บุคคลผู้ด้อยโอกาสในแผ่นดินนี้ และจะดลบันดาลให้พวกเขาเป็นผู้นำ และจะดลบันดาลให้พวกเขาเป็นทายา (อัลกอศ่อศ โองการที่ ๕)
เจตนารมณ์ของอัลลอฮ์ ก็คือ พระองค์ทรงฝากฝังบรรดาผู้ด้อยโอกาสไว้กับการนำอันเปี่ยมไปด้วยวิทยปัญญาของบรรดาศาสดาและทายาทของท่านเหล่านั้น ให้ช่วยพวกเขาเป็นอิสระจากรัฐบาลทรราช และให้ชะตาชีวิตขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเอง ตามพระบัญชานี้
หวังว่า คำสัญญาของพระเจ้าที่จะประทานความโปรดปรานพิเศษให้แก่บรรดาผู้ด้อยโอกาสจะเป็นจริงขึ้นมาในเร็ววัน……. พระหัตถ์อันทรงพลังขององค์ผู้ทรงสัจจะ จะทรงดึงมือของประชาชาติผู้ถูกกดขี่ และการเปลี่ยนแปลงในนามของพระเจ้าที่ได้บังเกิดขึ้นประชาชาติอิหร่านนั้น ขอให้บังเกิดขึ้นกับประชาชาติและกลุ่มชนอื่นๆด้วย ตามพระประสงค์ของพระองค์ มือของผู้กดขี่ที่สร้างความเลวร้ายเอาไว้กับบรรดาผู้ด้อยโอกาสในโลกจะถูกตัดขาด และบรรดาผู้ถูกกดขี่ก็จะได้รับสิทธิ์ที่ถูกแย่งชิงไปกลับคืนมา…….
อ้างอิง หนังสือ ศอฮีฟะห์ อิมาม เล่ม ๙ หน้า ๒๖๗