บทนำ
คุณรู้จักหน่วยจารชน หรือ หน่วยข่าวกรองของแต่ละประเทศที่ทรงอำนาจหรือไม่ เคยได้ยินชื่อพวกเขาบ้างไหม พวกเขาทำอะไรบ้าง แล้วพวกองค์กรเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ? ใครเป็นผู้ก่อตั้ง มีองค์กรใดบ้าง ที่รับหน้าที่ในการลอบสังหาร ฉกฉวยข้อมูล หรือ สร้างความเสียหายแก่โลก พวกเขามีอยู่เพียงในภาพยนต์ฮอลิวูด หรือ มีอยู่จริง ? สายลับในภาพยนต์กับสายลับในความเป็นจริงต่างกันอย่างไร ? มีเหตุการณ์สำคัญใดบ้างที่เกิดมาจาก ฝีมือของหน่วยงานลับเหล่านี้ ? เพื่อทำความรู้จัก และศึกษารูปแบบ และประวัติความเป็นมาขององค์กรเหล่านี้ ผู้เขียนจึงขอนำเสนอบทความหัวข้อ “กระชากหน้ากากจารชนโลก ”
ก่อนอื่นขอเกริ่นสักเล็กน้อยว่า หน่วยงานลับของแต่ละประเทศ ได้รับความสนใจจาก มนุษย์ทุกกลุ่มในศตวรรษที่ 21 อย่างจริงจัง ภายหลังจากการออกมาเปิดโปงของ เอ็ดเวิรด สโนเดน (อดีตเจ้าหน้าที่ NSA) จูเลียส เอสแซงค์ (เจ้าของเว็บไซต์ wikileak ) และทีมงานภายในที่ปล่อยข้อมูล และภารกิจต่างๆ
ในระดับรากหญ้าอาจมีผู้คิดว่า การเปิดโปงข้อมูล และภารกิจ รวมถึงวิธีการทำงานของ บุคคลเหล่านี้ เป็นเรื่องไม่มีสาระ ไม่มีมูล ไม่มีหลักฐาน เป็นเพียงการอ้างลอยๆ แต่กับคนในระดับปัญญาชน และกับหน่วยงานที่ถูกเปิดโปงเบื้องหลัง การออกมาเปิดโปงความลับของหน่วยงานเหล่านี้ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบรรดารัฐบาลของแต่ละประเทศ แม้ว่าจะมีการผลิตหนังสายลับ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ติดตา ดูเป็นบุคคลที่กำลังหมกหมุ่นอยู่กับการทำภารกิจ “พิทักษ์สันติราษฎร” ก็ตาม ในบทความนี้จึงเป็นการนำเสนอ มุมมองเรียบง่าย อิงประวัติศาสตร์ มุมมองหนึ่ง เพื่อทำความเข้าใจต่อหน่วยงานเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ผู้อ่านทั้งหลายวิเคราะห์ว่า สรุปแล้วพวกเขากำลัง “ปกป้อง” หรือ “ทำลาย”
ตอนที่ 1 Mossad หน่วยจารชนอิสราเอล
ในตอนแรกเราจะนำเสนอ บทวิเคราะห์เกี่ยวกับ รูปแบบของหน่วยงานลับรัฐเถื่อนไซออนิสต์ โครงสร้างองค์กร และปฏิบัติการสำคัญบางส่วน เกี่ยวกับ MOSSAD ต้องขอกล่าวอย่างที่ผู้อ่านต่างก็ทราบดีอยู่แล้วว่า ภารกิจ และ ทิศทาง ส่วนใหญ่ของหน่วยงานนี้ จะเกี่ยวข้องกับ ระบบหน่วยข่าวกรอง, การรักษาความมั่นคงให้อิสราเอล ด้วยการลดจำนวนชาวปาเลสไตน์ และผู้ที่ไม่ใช่ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งนับเป็นปฏิบัติการที่ขัดกันเองกับเป้าหมายการก่อตั้งอิสราเอล เพราะการฆ่าเพื่อดำรงอยู่ ในยุคปัจจุบัน จะนำหายนะมาสู่ผู้กระทำ อย่างทันตาเห็น หลักการคือ เพื่อสร้างความมั่นคง และการอยู่อย่างยั่งยืนของอิสราเอล พวกเขาต้องกำจัดเป้าหมายที่เห็นว่าเป็นภัยต่ออิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นักการศาสนา นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน หรือ แม้แต่คนขายข้าวแกงที่เป็นภัยต่อพวกเขา หรือ บุคคลระดับสูงอย่าง รมต.ประเทศต่างๆ ชื่อของบุคคลเหล่านี้จะถูกบรรจุว่าเป็นผู้มีความสามารถในการเขย่าอิสราเอล
ประวัติความเป็นมาของมอสสาด (Mossad)
เมื่อพูดถึงการถือกำเนิดของ องค์กรสายลับ มอสสาด คงต้องย้อนกลับไปที่ปี 1937 ฮากาน่า ได้สร้างองค์กรหนึ่ง นามว่า “มอสซาดบ้านรัตติกาล” ซึ่งหมายถึง “สำนักงานอพยพประชากร” ในเวลานั้น มอสสาด ยังถือเป็นหน่วยงานย่อยที่รับหน้าที่เพียงสาขาหนึ่งของ ฮากาน่า แต่ภายหลังจากนั้น อิสราเอล ก็ได้ตัดสินใจประกาศ องค์กรสายลับมอสสาด อย่างเป็นทางการในปี 1949 โดย ผู้อำนวยการ Mossad คนแรกมีนามว่า นาย เรอูเฟน ชีลวาฮ์ (Reuven Shiloah) เรอูเฟน คือหนึ่งในผู้ก่อตั้ง มอสสาด และดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการคนแรกขององค์กรนี้
เรอูเฟน ได้บริหาร มอสสาด ภายใต้การดูแลโดย รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล ในปี 1951 นาย มะนาคิม เบกิน นายกรัฐมนตรีในช่วงเวลานั้น ได้ประกาศให้องค์กรใช้ชื่อ Mossad อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งประกาศประสานงานร่วมกันอย่างลับๆกับ CIA
จากบันทึกที่ถูกเผยแพร่ในปี 96 มีการอ้างอิงถึงจำนวนสมาชิก Mossad ว่ามีจำนวนถึง 1200-1500 คน โดยสมาชิกทุกคนจะเกษียณเมื่อมีอายุครบ52 ปี ปัจจุบัน สมาชิกองค์กรมอสสาดมีจำนวนมากกว่า 35,000 คน โดย 20,000 คน เป็นเจ้าหน้าที่พนักงาน และส่วนที่เหลือดำรงตำแหน่งชั่วคราว และมีสาขาย่อยกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก
มอสสาดประกอบไปด้วยหลายแผนก ซึ่งแผนกที่สำคัญขององค์กร มีดังต่อไปนี้
1 แผนกรวบรวมข่าวสาร [Collections Department] ปฏิบัติการและค้นหาบุคคล
หน้าที่ของคนในแผนกนี้คือ การเคลื่อนไหวสอดแนมทั่วโลก โดยผ่านช่องทาง สำนักงานที่มีบทบาทในด้านต่างๆ ของสังคม ในปี 2000 มีการประกาศเชิญชวน ให้จารชนเข้ามาร่วมมือกับมอสสาดอย่างแข็งขัน
2 แผนกกิจกรรมทางการเมืองและประสานงาน[Political Action and Liaison Deparmant] เคลื่อนไหวทางการเมือง และการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือจากนานาชาติ
หน้าที่ของกลุ่มคนที่อยู่ในแผนกนี้คือ การเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยการทำงานประสานกันกับหน่วยข่าวกรองของประเทศต่างๆที่เป็นมิตรกับอิสราเอล และพยายามเข้าควบคุมบริหาร ประเทศต่างๆที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางการฑูตอย่างใกล้ชิดกับ เทลอาวิฟ
ปารีส เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีศูนย์สั่งการสำคัญของมอสสาด และสถานทูตฝรั่งเศสคือ ศูนย์กลางปฏิบัติการสอดแนม และค้นหาสายลับ เช่นเดียวกัน การเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือ การสร้างความสัมพันธ์จากนานาชาติ ก็ถูกสั่งการและบริหารจากสถานที่แห่งนี้
3 แผนกปฏิบัติการพิเศษ[Special Operation Division] เรียกอีกชื่อว่า Metsada
ในแผนกนี้ รับหน้าที่ลอบสังหาร หรือ ก่อวินาศกรรม ลดจำนวนประชากรที่อิสราเอล ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของไซออนิสต์ บางส่วนจากภารกิจ ยังมีปฏิบัติการอื่นๆ เช่นการทำลายเสถียรภาพทางการทหาร การทำสงครามเย็น
4 แผนกสงครามจิตวิทยา [Lohamah Psichologit Deparment]
ในแผนกนี้ สมาชิกจะรับหน้าที่ในการสร้างสงครามเย็น การโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อและงานลับ ลวง พราง
5 แผนกวิจัย วิเคราะห์ [research Department]
ในแผนกนี้ สมาชิก จะนำ ข้อมูลในแต่ละวัน สัปดาห์ เดือน ข้อมูล ข่าวกรอง นาที ต่อนาที มาทำการวิเคราะห์ ซึ่งหน้าที่ต่างเหล่านี้ ถูกแบ่งย่อยออกเป็น 15 สำนักงาน ในแต่ละสำนักงาน จะครอบคลุมพื้นที่หนึ่งทางภูมิศาสตร์ ซึ่งครอบคลุม สหรัฐ แคนาดา ประเทศยุโรปตะวันตก ลาตินอเมริกา สหภาพโซเวียต จีน แอฟริกา และประเทศอาหรับตะวันตก เช่น แอลจีเรีย ตูนีเซีย ลิเบีย อิรัค จอร์แดน ซีเรีย และอิหร่าน และอีกสำนักงานหนึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่อง อาวุธนิวเคลียร์
6 แผนกวิชาการและเทคโนโลยี [Technology Department]
รับหน้าที่พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีใหม่ เพื่อสนับสนุนให้ปฏิบัติการของมอสสาดลุล่วง ซึ่งในปี 2001 มอสสาด เคยประกาศ รับสมัคร วิศวกร และนักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านอิเล็กโทรนิค คอมพิวเตอร์ ให้เข้ามาร่วมทำงานกับองค์กร
ภารกิจหลักขององค์กรลับ
-รวบรวมข้อมูลข่าวสารรายวัน
-ยับยั้งการผลิตอาวุธที่ไม่รู้จักโดยศัตรูของประเทศ
-ต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวเชิงก่อการวินาศกรรมนอกประเทศ
-พัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ทางการฑูต
-ผลิตข้อมูลทางยุทธศาสตร์ ข้อมูลทางการเมือง และออกใบสั่งให้ปฏิบัติการ
ในตอนต่อไป เราจะนำเสนอองค์กรภายในประเทศ,เทคนิคการทำงานของมอสสาด ,และรายชื่อภารกิจ และบุคคลที่ถูกสังหารโดยมอสสาดพร้อมด้วยเหตุผล
โปรดติดตามตอนต่อไป
