ระบอบการปกครองอันจอมปลอมของรัฐบาลไซออนิสต์ที่เกิดขึ้นมานั้น ไม่เพียงแต่เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของชาวปาเลสไตน์และโลกมุสลิมเท่านั้น แต่ทว่ารัฐบาลไซออนิสต์เป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติทั้งหมด
ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่จะเรียกอิสราเอลว่า มะเร็งร้ายของโลก เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคร้ายแรงชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้อวัยวะร่างการอื่นๆ พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน และสุดท้ายมันก็จะฆ่ามนุษย์ผู้นั้นให้ตายอย่างช้าๆ ถ้าหากเราจะมองไปยังมุมมองทางทหารระหว่างประเทศ เราจะเห็นร่องรอยของอาชญากรรมที่มาจากวีรกรรมของประเทศที่เป็นเนื้อร้ายของโลกใบนี้ ซึ่งร่องรอยเหล่านี้มีให้เห็นตั้งแต่ปาเลสไตน์จนใจกลางยุโรป อเมริกาและแอฟริกา
หลังจากเวลาผ่านไปนานกว่าศตวรรษของการเกิดขึ้นของรัฐบาลไซออนิสต์ การก่ออาชญากรรมของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่การฆ่าผู้คนบริสุทธิ์และการเข้ายึดครองแผ่นดินผู้อื่นเพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะทั้งทาง วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม การสื่อสารก็เช่นกัน ทุกวันนี้พวกเขาได้เข้าแทรกแซงด้วยอิทธิพลและความมั่งคั่ง เพื่อจะทำให้สิ่งเหล่านั้นกลายเป็นเครื่องมือนำพาไปสู่เป้าหมายของตน และใช้ออกแบบโลกทุกวันนี้ให้เป็นไปตามความคาดฝันของพวกเขา
ข่าวลือการซื้อที่ดินจากชาวปาเลสไตน์
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิอ็อตโตมันประกอบกับบางส่วนของผืนแผ่นดินปาเลสไตน์ได้ตกไปอยู่ในการครอบครองของกองกำลังทหารอังกฤษ อาคารต่างๆ จึงถูกสร้างขึ้นและถูกมอบให้ชาวไซออนิสต์ เหล่านายทุนไซออนิสต์จึงได้หลอกเจ้าของที่ดินชาวหรับว่าพวกเขาได้กวาดซื้อที่ดินดังกล่าวและมีแผนจะย้ายถิ่นฐานของตนมายังแผ่นดินปาเลสไตน์ ด้วยเหตุนี้เหล่าบรรดาผู้รู้นักวิชาการชาวปาเลสไตน์ได้ออกคำสั่งประกาศห้ามขายที่ดินให้กับชาวยิว
ซึ่งแผ่นดินทั้งหมดที่อังกฤษได้มอบให้แก่ชาวยิวนั้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5-7 เปอร์เซ็นต์ แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่ปีได้เริ่มมีการรุกคืบแย่งชิงและเข้าครอบครองแผ่นดินปาเลสไตน์จากชาวยิว โดยได้รับการสนับสนุนจากสหราชอาณาจักร
ลัทธิไซออนิสต์ : ศตวรรษแห่งการก่อสงคราม,การยึดครองและการทำลาย
อาชญากรรมต่างๆ ของไซออนิสต์และการเข่นฆ่าได้ถูกดำเนินการขึ้น มีความกระตือรือร้นอย่างมากจากเหล่าผู้สนับสนุนพวกเขาเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายคือการสร้างรัฐอิสราเอลขึ้นมา หลังจากการมาถึงของชาวยิวยังแผ่นดินปาเลสไตน์ ขบวนการเข้ายึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์ก็ค่อยๆ ดำเนินการตลอดมา ในช่วงต้นอาจเป็นการเข้ายึดครองในอีกรูปแบบหนึ่ง เหล่าบรรดาผู้ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในยุคแรกพวกเขาพยายามเข้าซื้อที่ดินรอบๆ แผ่นดินที่อยู่ภายใต้การดูแลของอังกฤษด้วยการเสนอราคาที่สูงเป็นอย่างมาก แต่ด้วยกับการสั่งห้ามขายของบรรดาผู้รู้นักวิชาการชาวปาเลสไตน์จึงทำให้การกวาดซื้อที่ดินของพวกเขาไม่ได้การตอบรับ หลังจากนั้นจึงได้เริ่มมีการเข้ายึดครองครองที่ดินและบังคับขับไล่เจ้าของที่ดินเหล่านั้นออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากอังกฤษ และค่อยๆ กลายเป็นองค์กรที่ชัดเจนมากขึ้น
นับตั้งแต่ก่อตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นจนถึงทุกวันนี้พวกเขาได้ก่อสงครามถึง 14 สงครามแล้วกับประเทศเพื่อนบ้านและชาวปาเลสไตน์ที่พวกเขาเข้ายึดครองแผ่นดิน อิสราเอลได้เปิดฉากสงครามถาวรกับปาเลสไตน์ ซึ่งสงครามดังกล่าวยืดเยื้อมาถึงทุกวันนี้ ผู้คนนับหมื่นล้มตายและหลายร้อยหลายพันคนได้รับบาดเจ็บและผู้คนผลัดถิ่นมากมายสืบเนื่องจากสงครามที่พวกเขาได้ก่อขึ้นยาวนานกว่า 67 ปี
อำนาจทางเศรษฐกิจทั่วโลกของไซออนิสต์
ตั้งแต่ความคิดของลัทธิไซออนิสต์ คือ การก่อตั้งรัฐอิสระขึ้นด้วยการสนับสนุนของชาวยิว เหล่าไซออนิสต์พวกเขาได้ดำเนินการอย่างชาญฉลาดกว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมาจนกระทั่งพวกเขาได้กลายเป็นศูณย์กลางแห่งอำนาจและความมั่งคั่งของโลก และพวกเขาได้ใช้หนทางดังกล่าวเพื่อรับประกันความอยู่รอดของรัฐอิสราเอล
ไม่เป็นที่ต้องสงสัยเลยว่าเหล่านายทุนที่ยิ่งใหญ่ของโลกล้วนแล้วแต่เป็นไซออนิสต์ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ในศตวรรษที่ 18 นายทุนยิวคนแรกคือ เมเยอร์ อัมเชล รอธไชลด์ เขามาจากครอบครัวที่เป็นแหล่งกำเนิดของชาวยิวที่เป็นผู้สนับสนุนการก่อตั้งรัฐอิสราเอล และพวกเขายังสามารถครอบงำเศรษฐกิจโลกได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ธนาคารยักษ์ใหญ่ที่ได้รับความเชื่อถือในยุโรป อเมริกา ล้วนแล้วแต่เป็นธนาคารที่อยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวของเขา ซึ่งทั้งหมดได้ให้สัตยาบันว่าจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ไซออนิสต์ในการก่อตั้งรัฐขึ้นมา เหล่าธนาคารในกลุ่มของรอธไชลด์ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ต่างๆ ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันทั้งหมด
เมเยอร์ รอธไชลด์ ผู้ก่อตั้งระบบธนาคาร รอธไชลด์
ตามรายงานต่างๆ ที่ถูกตีพิมพ์อย่างมากมายได้บันทึกไว้ว่า ครอบครัวของรอธไชลด์ได้เข้าดูแลเงินของธนาคารกลางระหว่างประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมมากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมด หรือจะกล่าวง่ายๆ คือ ครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินของโลกมีความสัมพันธ์กับครอบครัวนี้ แต่กลับไม่มีชื่อคนหนึ่งคนใดในครอบครัวนี้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นเศรษฐีของโลกเลยแม้แต่คนเดียว
ไซออนิสต์ขบวนการค้าประเวณีและค้ามนุษย์
จากรายงานของสหประชาชาติระบุไว้ว่า อิสราเอลเป็นศูนย์กลางที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของการค้ามนุษย์และการค้าประเวณีผู้หญิง มีบันทึกไว้ว่าไซออนิสต์จะค้าโสเภณีโดยควานหาหญิงสาวที่กำลังหางานทำ ซึ่งในทุกๆ ปีมีหญิงสาวที่ตกงานไม่น้อยกว่า 5,000 คนตกเป็นเหยื่อการค้าโสเภณีของไซออนิสต์ การค้าประเวณีในดินแดนที่ถูกยึดครองได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายอย่างถูกต้อง
มีเหล่าหญิงสาวทั้งจากประเทศจีน โรมาเนีย ตุรกี ยูเครน ประเทศต่างๆ ในแถบแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โดนหลอกโดยการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับผู้ที่ต้องการจะเรียนต่อและหางานทำที่สร้างความหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้น กลับโชคร้ายที่จะต้องตกหลุมพรางของแก๊งค้ามนุษย์ของไซออนิสต์
ปัจจุบันมีผู้หญิงนับหมื่นคนที่ตกเป็นเหยื่อให้แก่แก๊งค้ามนุษย์ไซออนิสต์ในดินแดนที่พวกเขาเข้ายึดครองจากชาวปาเลสไตน์
หนังสือเดินทางของผู้หญิงเหล่านั้นจะถูกริบทันทีที่พวกเขามาถึงและพวกเขาจะไม่ปล่อยให้พวกนางเดินทางกลับประเทศตนอีก