“เพนตากอน” พัฒนาโครงการอาวุธไซเบอร์ให้มีศักยภาพโจมตีสังหารมนุษย์ได้

1312

เพนตากอน พยายามที่จะก้าวบรรลุถึงศักยภาพและขีดความสามารถในการสร้างสงครามไซเบอร์ โดยให้ไปถึงขั้นที่วอชิงตันสามารถมุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่สำคัญของประเทศต่างๆ และรวมถึงความสามารถในการสังหารมนุษย์ ด้วยอาวุธไซเบอร์

RT สื่อรัสเซีย รายงาน  ภายใต้หัวข้อ “ในความพยายามที่จะใช้อาวุธในโลกไซเบอร์ที่มีความสามารถในการฆ่าในโลก”  (Pentagon pushes for cyber weapons capable of real-world killing) โดยรายงานถึงความพยายามของกระทรวงกลาโหมอเมริกา ที่ทำการดึงสงครามไซเบอร์เข้าสู่ขั้นตอนในการสังหารชีวิตของมนุษย์

รายงานระบุว่า  “ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทางทหาร ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 460 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 13,800 ล้านบาท นั้น  สงครามไซเบอร์อาจจะไปสู่ขั้นตอนที่เป็นอันตรายอย่างแท้จริงสำหรับมนุษย์ในภายภาคหน้า”

RT ระบุว่า เว็บไซต์ Defence One  เผยรายงานดังกล่าวว่า  บริษัทขายอาวุธต่างๆของอเมริกา เช่น บริษัท “Raytheon” บริษัท Lockheed Martin   และบริษัท “Northern Grumman”  กำลังแข่งขันในการเป็นเจ้าของโครงการที่มีมูลค่า  460  ล้านดอลลาร์ ในการเป็นผู้ควบคุมและบัญชาการโลกไซเบอร์ของอเมริกา อันเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้กับกองทัพอเมริกาในการทำลายโครงการสร้างขั้นพื้นฐานที่สำคัญของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แหล่งข่าวดังกล่าว ระบุว่า  โครงการดังกล่าวมีระยะดำเนินการ 5 ปี   ซึ่งมีรายละเอียดเนื้อหาจำนวน 114   หน้า  มีการนำเสนอเมื่อ วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา  บ่งชี้ว่า เพนตากอนกำลังมองหาโครงการในความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารผ่านสงครามไซเบอร์

อาร์ที รายงานเสริมว่า ภายใต้โครงการนี้กระทรวงกลาโหมอเมริกาจะมีการยกระดับ “ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของอาวุธไซเบอร์ร่วมกัน” ให้กลายเป็น “อาวุธไซเบอร์”

อาร์ที  รายงานว่า บางกิจกรรมในการจารกรรมไซเบอร์โดยตรง เริ่มต้นจาก  “ไฟไหม้และการโจมตี” ไปยังฮาร์ดแวร์ต่างๆ ของศัตรู ซึ่งเป็นชนิดใหม่ของสงครามไซเบอร์ที่หลุดขอบเขตจากการโจมตีในระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิม  จากจุดนี้มันจะมีความต่างกันของไวรัส Stuxnet ที่เป็นตัวทำลายล้าง centrifuges  และสามารถเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตมนุษย์

ในเอกสารที่ตีพิมพ์ในฐานอเมริกัน  “Defence One” ได้ระบุ ว่า แม้ความต้องการในสัญญาของเพนตากอนที่ได้ระบุไว้สำหรับบริษัทที่มี  “ความสามารถและอาวุธ”  ในโลกไซเบอร์ไว้ก็ตาม    ซึ่งในสัญญาดังกล่าวรวมทั้งข้อตกลง   “อย่างน้อยสามปีต่อการกำหนดเป้าหมายและการโจมตีในโลกไซเบอร์”

ประเภทของการทำสงครามในโลกไซเบอร์เช่นนี้ มิใช่เป็นประเด็นลับและรหัสลับในภาคสนามของกองทัพอเมริกาแต่อย่างใด   เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นอาวุธดิจิตอลที่ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่า  ซึ่งปัจจุบันนี้ถูกกล่าวถึงและเขียนไว้อย่างชัดเจนในคู่มือสงครามเล่มเล็กๆที่ตีพิมพ์โดยเพนตากอนเมื่อล่าสุดนี้ และในบทหนึ่งก็ได้ระบุเจาะจงในเรื่องของสงครามไซเบอร์

ชาร์ลี เจ ดันลอบ (Charles J. Dunlop) นายพลผู้ปลดเกษียณของอเมริกา กล่าวว่า  เพนตากอนอนุญาตให้มีการโจมตีโลกไซเบอร์  แม้แต่ในประเด็น “การถูกสังหารหรือพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บที่ได้รับการยืนยันชัดเจน” เพราะมีความกังวลว่าฝั่งตรงข้ามของทหารได้รับประโยชน์  นอกจากนั้นยังมีกฎสำหรับการโจมตีผ่านอาวุธและระเบิดแบบดั่งเดิมอีกด้วย

ในรายงานของ  Defence One ระบุว่า สามารถเปลี่ยนโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่กำลังจะล่มสลายที่ถูกไฟไหม้  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญของการส่งเสริมความสามารถทางไซเบอร์ของอเมริกา  กองบัญชาการไซเบอร์ของอเมริกา ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2009   โดยสามารถดึงทีมงานและผู้เชี่ยวชาญมากถึง 6,200   คน จากทั่วโลกในการเข้าสู่ทีมงานนักรบไซเบอร์  กองบัญชาการมีหน้าที่ในการป้องกันการโจมตีไซเบอร์โดยแฮกเกอร์ที่ได้รับคำสั่งจากภายนอกเพื่อเป้าหมายภายในอเมริกาและช่วยเหลือกองทัพอเมริกาที่อยู่นอกประเทศและป้องกันเครือข่ายของทหาร  และเชื่อว่าในจีนนั้นจะมีนักรบไซเบอร์จำนวน 100,000   กว่าคน