สิงคโปร์จับ 27 คนงานบังคลาเทศหัวรุนแรง ใต้กฎหมายความมั่นคงภายใน

783

สเตรทไทมส์ของสิงคโปร์รายงานว่า ประเทศสิงคโปร์จับกุมคนงานชายชาวบังคลาเทศ 27 คน ใต้กฎหมายความมั่นคงภายในประเทศ (ISA)

การสืบสวนทำให้ทราบว่า กลุ่มดังกล่าว ได้มีร่วมหารือกันมาตั้งแต่ปี 2013 ทั้งยังให้การสนับสนุนแนวคิดการก่อการร้ายติดอาวุธจิฮาด ของกลุ่มผู้ก่อการร้ายสุดโต่ง อย่างเช่น อัลกอดิดะอฺ และ ไอเอส (ISIS)

บางคนจากพวกเขา ยังเป็น นักรบจิญาดิสต์ที่ขับเคี่ยวอยู่ในต่างแดนอีกด้วย ทว่าพวกเขาไม่มีแผนการก่อการร้าย หรือ ต้องการจะโจมตีประเทศสิงคโปร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (MHA) กล่าวเมื่อวันพุธ (20 มกราคม)

27 คนนี้ คือ แรงงานอุตสาหกรรมก่อสร้างหนุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการกักขังพวกเขาไว้อยู่ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 1 ธันวาคม เมื่อปีที่แล้ว ส่วนมากเคยทำงานอยู่ในสิงคโปร์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ถึง 7 ปี

ในโพสต์เฟสบุ๊ก เมื่อคืนวันพุธ นายกรัฐมนตรี Lee Hsien Loong กล่าวว่า พวกเขาคือภัยคุกคามอย่างจริงจังต่อประเทศสิงคโปร์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกำลังวางแผน “ปฎิบัติการชั่วช้า” ในประเทศบ้านเกิดของตน

นายกฯกล่าวเสริมว่า สิงคโปร์จะเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย และจะดำเนินการปกป้องความเป็นหนึ่งเดียวกันของประเทศ ซึ่งมีประชากรมาจาก เชื้อชาติ และศาสนาที่แตกต่างกัน

Picture1

แนวคิดนิยมความรุนแรง และ ลัทธิก่อการร้าย จะไม่มีวันหยั่งรากลงในสิงคโปร์, นายกฯ Lee กล่าว

  1. Shanmugam รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกฎหมาย เตือนว่า แรงงานหนุ่มอาจจะเปลี่ยนความคิด และโจมตีสิงคโปร์เมื่อใดก็ได้

“หน่วยงานความมั่นคงของเราทำงานได้เป็นอย่างดี ในการจับกุมตัวพวกเขาไว้ได้ก่อนหน้านี้ ผมเคยได้กล่าวไว้เมื่อวาน ว่า ภัยคุกคามจากลัทธิการก่อการร้ายมีอยู่จริง เราได้รับคำเตือนอยู่ทุกๆวันสำหรับกรณีนี้,”  Shanmugan  เขียนไว้ในโพสต์เฟสบุ๊กของเขา

ในจำนวนแรงงานหนุ่ม 27 คน 26 คนจากพวกเขาคือ สมาชิกจากกลุ่มศึกษาศาสนา (กลุ่มปิด) ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้ลงนาม (subscribed) เป็นแนวร่วมความเชื่อสุดโต่ง และติดตามคำสอนจาก ผู้มีชื่อเสียงหัวรุนแรง อย่าง Anwar al-Awlaki นักการศาสนาลูกครึ่ง อเมริกัน-เยเมน ผู้ต้องสงสัยมีความใกล้ชิดกับกองกำลังติดอาวุธ อัลกออิดะอฺ –  Awlaki สิ้นชีพจากเหตุการณ์โดรนถล่มเยเมนเมื่อเดือน พฤศจิกายน ปี 2011

แรงงานที่เหลือไม่ได้เป็นสมาชิกจากกลุ่มศาสนา (กลุ่มปิด) ดังกล่าว ทว่ามีการค้นพบว่า เขามีแนวคิดนิยมความรุนแรง เขาให้การสนับสนุนนักการศาสนาหัวรุนแรงและคลั่งไคล้วัตถุที่มีความเกี่ยวข้องกับปฎิการจิฮาด

แรงงานทั้ง 27 คนถูกยกเลิกใบอนุมัติทำงาน อีกทั้ง 26 คนจากพวกเขาก็ถูกส่งตัวคืนกลับประเทศบังคลาเทศแล้วอีกด้วย ที่ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งให้ทราบถึงเหตุ และสภาวะการเบื้องหลังการส่งตัวกลับของพวกเขา

คนสุดท้ายที่เหลือ ขณะนี้ยังคงถูกคุมขังอยู่ในสิงคโปร์ จากข้อหาพยายามหลบหนีออกจากสิงคโปร์อย่างผิดกฎหมาย ภายหลังที่ได้ทราบว่า เพื่อนๆถูกจับกุม เขาจะถูกส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิดเช่นเดียวกัน ทว่าภายหลังจากที่ได้ชดใช้ความผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตั้งแต่ได้มีการจับกุมผู้ก่อการร้ายมาในประเทศนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่ ห้องขังผู้ก่อการร้ายจิฮาดิสต์ ถูกบรรจุไปด้วยชาวต่างชาติ ก่อนหน้านี้ มีชาวสิงคโปร์บางคน สมาชิกจากกลุ่ม จามีอะฮ์ อิสลามียะฮ์ (Jemaah Islamiyah) กลุ่มที่เคยได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ก่อการร้ายในต่างแดน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวตอบคำถามจากสื่อมวลชน

กลุ่มดังกล่าว จะมีการจัดประชุมหารือในทุกๆสัปดาห์ ในบางแห่งจากมัสยิด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับที่ๆพวกเขาอาศัยอยู่  ในการประชุมเหล่านี้ พวกเขาจะทำการหารือ เรื่อง อาวุธสำหรับใช้ในการปฏิบัติการจิฮาด และสร้างความแตกแยกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชาวมุสลิม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวตอบคำถามจากสื่อมวลชน

พวกเขาไม่ได้มีสัญญาว่าจ้าง หรือ เป็นลูกจ้างสังกัดอยู่กับบริษัทใดๆก็ตาม “นอกเหนือจากนี้ พวกเขาก็ไม่ได้มีการระดมพรรคพวกสมาชิกในสถานที่ปักหลักแห่งใดแห่งหนึ่ง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเสริม

ในความพยายามเพื่อจับกุมพวกเขา ฝ่ายความมั่นคงภายในได้ค้นพบ วัตถุที่มีความเกี่ยวข้องกับแนวคิดนิยมความรุนแรง และ การจิฮาด เป็น “จำนวนมาก” อย่างเช่น หนังสือ และวิดิโอที่รวบรวม  ภาพเยาวชนขณะกำลังได้รับการฝึกอบรบภายในสถานที่ที่คาดว่าน่าจะเป็น ค่ายฝึกอาวุธเพื่อการก่อการร้าย

สมาชิกหลายๆคนยังได้ครอบครองเอกสารร่วม ประกอบด้วยภาพกราฟฟิก และ รายละเอียดคู่มือ บอกวิธีการลงมือ “สังหารเงียบ” ด้วยอาวุธและวิธีหลากหลายแบบ

Picture2รูปภาพจากเอกสารร่วมดังกล่าว

 

กลุ่มดังกล่าวใช้มาตรการตรวจจับเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่จับได้ มีการแบ่งปันเอกสารร่วมกันอย่างระมัดระวัง และจัดการชุมนุมร่วมกันทุกๆสัปดาห์ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีสร้างความแตกแยกติดอาวุธ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชาวมุสลิม -รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าว

“พวกเขายังเล็งเป้าหมาย รับสมัครสมาชิกชาวบังคลาเทศอื่นๆเพื่อขยายฐานสมาชิกกลุ่มของพวกเขาด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าว

จำนวนหนึ่งจากสมาชิกของพวกเขาให้สารภาพว่า พวกเขามีความเชื่อมั่นในการเข้าร่วม และขับเคี่ยวขบวนการจิฮาดติดอาวุธ ในนามของศาสนา หลายๆครั้งได้ครุ่นคิดจะเดินทางไปตะวันออกกลางเพื่อร่วมสู้รบในสถานการณ์ความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น

บางคนจากพวกเขาให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายที่เคยทำการสังหารชาวมุสลิมนิกายชีอะฮ์ ตามที่พวกเขามีความเชื่อว่า ชาวมสุลิมนิกายชีอะฮ์ คือ ลัทธิที่ “เบี่ยงเบน”

นอกจากนี้ พวกเขายังมีความคับข้องใจกับวิธีการปฏิบัติตนของรัฐบาลบังคลาเทศ ที่มีต่อผู้นำ และกลุ่มอิสลามิก บางกลุ่ม

“เหล่าสมาชิกถูกกระตุ้นให้กลับไปยังบังคลาเทศ และก่อเหตุการณ์จิฮาด ต่อต้านรัฐบาลบังคลาเทศ พวกเขายังเคยได้ส่งเงินบริจาคไปยังหน่วยงาน ที่เชื่อว่าน่าจะมีการเชื่อมโยงอยู่กับ กลุ่มพวกหัวรุนแรงในบังคลาเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าว

รัฐบาลมีทัศนคติที่จริงจังเป็นอย่างมาก ต่อการสนับสนุนลัทธินิยมการก่อการร้ายไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆก็ตาม

ผู้ใดก็ตาม – ชาวต่างชาติ หรือ ที่ไม่ใช่ – ใครก็ตามที่มีส่วนรู้เห็นในกิจกรรมซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นภัยคุกคาม และเป็นภัยอันตรายต่อความมั่นคง และ ความเป็นปึกแผ่นของชาติสิงคโปร์ จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด

“ชาวต่างชาติคือ แขกของประเทศเรา ดังนี้พวกเขาจึงไม่ควรทำลายสิทธิพิเศษอันนี้ และใช้สิงคโปร์เป็นฐานในการนำเข้า วาระทางการเมืองจากประเทศของตน และดำเนินกิจกรรมใดๆก็ตามเพื่อปฏิบัติตามวาระทางการเมืองนั้นๆ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าว

“ในทางเดียวกัน นักธรรมเทศนาชาวต่างชาติที่เผยแพร่คำสอนซึ่งแตกแยกออกไป ที่ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจ การเป็นศัตรู และความเกลียดชัง ระหว่างบรรดาศาสนาที่มีอยู่ประเทศ และอาจส่งผลเสียต่อการทำงานร่วมกันทางสังคมของสิงคโปร์ จะไม่ได้รับการต้อนรับและจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการปฏิบัติกิจกรรมใดๆได้ในสิงคโปร์. ”

ผู้ใดก็ตามที่รับรู้ หรือ พบพิรุธ สงสัย ใคร ที่อาจจะมีแนวโน้มเอียงไปนิยมชมชอบความรุนแรง หรือ มีส่วนรู้เห็นกับกิจกรรมสุดโต่ง หรือ มีการเผยแพร่คำสอนสุดโต่ง ควรแจ้งฝ่ายความมั่นคงภายใน (1800-2626-473) หรือ ตำรวจ (999) ทันที