sputniknews – เครื่องบินรบรัสเซียได้ประจำการที่ฐานทัพอากาศ Nojeh Hamedan ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของทหารต่างชาติในประเทศอิหร่านหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ในเบื้องต้น ต้องขอกล่าวว่าตามข้อกฎหมายที่หนึ่งร้อยสี่สิบหกแห่งรัฐธรรมนูญอิหร่านนั้นการจัดตั้งฐานทหารของต่างชาติในประเทศเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ในกรณีเหตุการณ์ล่าสุดนั้นยังไม่ได้ถือเป็นการให้รัสเซียตั้งฐานทัพแต่อย่างใด และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงความร่วมมือทางทหารระหว่างอิหร่านกับรัสเซียที่เป็นพันธมิตรกันและไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายดังกล่าวข้างต้น
แต่เหตุผลในการกระทำครั้งนี้คืออะไรนั้น เบื้องต้นขอกล่าวว่า เส้นทางการบินของเครื่องบินรัสเซียจากรัสเซียไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นมีระยะทางยาวมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเครื่องบินเหล่านี้เกือบทั้งหมดต้องบินข้ามยุโรปจากสแกนดิเนเวียเหนือถึงยุโรปตะวันตก ต้องข้ามทะเลที่เป็นพรมแดนของสเปนและ โมร็อกโกเข้าสู่ทะเล Alboran ต้องผ่านชายแดนทางทะเลของอิตาลีและตูนิเซีย มุ่งสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและดินแดนซีเรีย และในเส้นทางการบินที่มีระยะยาวเช่นนี้ ดาวเทียมของฝ่ายต่อต้านรัสเซียก็มีการตรวจจับเครื่องบินรัสเซีย จากนั้นมีการแจ้งพิกัดของเครื่องบินรบดังกล่าวให้กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในซีเรีย ระยะทางสั้น ๆ ระหว่างอิหร่านและซีเรียจึงทำให้แผนของศัตรูต้องล้มเหลว อีกด้านหนึ่งเนื่องจากขนาดจำนวนปริมาณของเครื่องบินรัสเซียที่ประจำการในฐานทัพ Hamadan นั้น คือเครื่องบินรบ TU-22M3 ฐานทัพฮามีมีมในเมือง ลัตตะเกียซีเรีย ไม่สามารถรองรับเครื่องบินรบดังกล่าวได้ นี่คือเหตุผลหลักสำหรับความร่วมมือระหว่างอิหร่านและรัสเซียในกรณีดังกล่าวข้างต้น
อย่างไรก็ตามเป็นที่สังเกตว่า การที่อิหร่านหันมาให้ความร่วมมือทางทหารกับรัสเซียนั้นเนื่องจากเป้าหมายของรัสเซียนั้นถือว่าสอดคล้องกับเป้าหมายของอิหร่าน และสิ่งนี้ไม่ได้มีความหมายถึงการมีผลประโยชน์ร่วมที่ถาวรระหว่างทั้งสองประเทศ ในความเป็นจริง อิหร่านและรัสเซียก็มีเป้าหมายที่สอดคล้องกันจึงจัดตั้งพันธมิตรขึ้นมา เหมือนกับไม่นานมานี้ที่มีการบรรลุข้อตกลง Brjam ระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกาที่มีเป้าหมายชัดเจนในเรื่องนี้
ผลจากการวิเคราะห์ดังกล่าวมีดังนี้ ประการแรก อิหร่านในประเด็นอุดมการณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นจะไม่ยอมให้พลาดโอกาสในการบรรลุเป้าหมายของตนในการร่วมกับพันธมิตร ประการที่สอง ตามการบรรลุข้อตกลงระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกานั้น โดยปกติแล้วหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในลำดับความสำคัญทางภูมิศาสตร์เชิงกลยุทธ์ การเมืองและภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งการบรรลุข้อตกลกระหว่างอิหร่านกับรัสเซียในประเด็นฐานทัพก็ไม่ต่างอะไรมากกับเรื่องดังกล่าวข้างต้น
ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถตั้งข้อสังเกตในสองประเด็นด้วยกัน
ประการแรก อิหร่านดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าวขณะที่เกิดการปะทะอย่างหนักระหว่างผู้ลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในประเด็นข้อตกลง Brjam และแน่นอนว่าการดำเนินการดังกล่าวทางกระทรวงต่างประเทศอิหร่านต้องรู้มาก่อน และอีกด้านหนึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์อิหร่านในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเป็นการส่งสาส์นไปยังสหรัฐอเมริกาว่า ชัยชนะของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียนั้นคือเป้าหมายที่อิหร่านจะไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนไม่ว่าจะกรณีใดๆ และในเรื่องนี้ก็จะดำเนินการแม้แต่ในสิ่งที่ไม่คาดฝัน
ประการที่สอง ผลของการดำเนินการครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นบทบาทเชิงกลยุทธ์ของอิหร่านในภูมิภาค อิหร่านได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าวกับรัสเซีย ในช่วงเวลาหลังจากที่ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกาในปัญหานิวเคลียร์ และมันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประการแรก อิหร่านมีความเป็นอิสระความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระดับสูง และประการที่สอง แสดงให้เห็นถึงความสามารถของอิหร่านในการเจรจาทางการทูตในระดับสูง ซึ่งสามารถนำมาซึ่งเกียรติยศและความภาคภูมิใจให้กับตนหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนทางการเมืองจากอเมริกาและการสนับสนุนทางการทหารจากรัสเซีย
ซึ่งแนวโน้มเช่นนี้จะทำให้อิหร่านมีอำนาจและบทบาทในสมการในระดับภูมิภาคมากยิ่งขึ้น…..