ซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ ชี้“มุกอวิมัต” คืออุปสรรค์สำหรับการบรรลุเป้าหมายของศัตรู

581

presstv – ซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์แห่งเลบานอน ได้กล่าวปราศรัยในวาระคืนแรกของเดือนมุฮัรรอม  โดยถือว่าชัยชนะของกลุ่มมุกอวิมัต(กองกำลังปกป้องมาตุภูมิ) เป็นอุปสรรค์สำคัญสำหรับการบรรลุเป้าหมายของศัตรู

สำนักข่าวอัลมะนาร์ รายงานว่า ซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์แห่งเลบานอน ได้กล่าวปราศรัยในวาระคืนแรกของเดือนมุฮัรรอม ณ มุจญตะมะอ์ซัยยิดุลชุฮาดาอ์ ภาคใต้ของกรุงเบรุต  โดยกล่าวว่า ชัยชนะหมายถึงการสกัดกั้นในการบรรลุเป้าหมายหลักของบรรดาศัตรู ดังนั้นเมื่อกลุ่มมุกอวิมัต(กองกำลังปกป้องมาตุภูมิ) เป็นตัวอุปสรรค์สำหรับการบรรลุเป้าหมายของศัตรูแล้วมันจึงกลายเป็นชัยชนะ

ซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ กล่าวเสริมว่า  เมื่อกลุ่มมุกอวิมัต(กองกำลังปกป้องมาตุภูมิ) เป็นตัวอุปสรรค์สำหรับการบรรลุเป้าหมายของศัตรูจึงถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและกลุ่มมุกอวิมัตก็สามารถบรรลุเป้าหมายของตนอีกด้วย

ซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ กล่าวเสริมว่า นับจากปี 2000 กลุ่มมุกอวิมัตสามารถสกัดกั้นในการบรรลุเป้าหมายต่างๆของบรรดาศัตรูนอกจากนั้นเราสามารถปลุกประชาชนให้ตื่นจากการหลับใหล และปลดปล่อยนักโทษดินแดนเป็นอิสระซึ่งสิ่งเหล่านี้เราเรียกว่าชัยชนะและความสำเร็จ

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์แห่งเลบานอน ได้ชี้ถึงเหตุการณ์กัรบาลาอ์ ว่า  ในเหตุการณ์กัรบาลาอ์นั้นมีสองค่าย  ซึ่งทั้งสองต่างแสวงหาเป้าหมายของตน ถ้าเราพิจารณาว่าในโลกนี้ใครคือผู้มีชัยและในวันปรโลกใครคือผู้ที่จะได้รับชัยชนะ เราก็สามารถกล่าวถึงชัยชนะและความปราชัยของกลุ่มดังกล่าวได้อย่างชัดเจน

เขากล่าวเสริมว่า  อิสลามคงอยู่จนถึงวันนี้และมีการแพร่ขยายอย่างกว้างขวางซึ่งมัศฮับ(นิกาย)ต่างๆในอิสลามล้วนแล้วเป็นหนี้บุญคุณของเลือดและการเสียสละของท่านอิมามฮุเซ็น(อ)ทั้งสิ้น

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์แห่งเลบานอน กล่าวเสริมว่า  อุดมการณ์ของอิมามฮุเซ็นก็ยังคงอยู่จนถึงวันนี้ เพื่อรักษาปกป้องศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์  พร้อมกับกระชากเปิดโปงและสร้างความอัปยศให้กับบรรดาผู้โง่เขลา บรรดาผู้ป่าเถื่อนและศัตรูของท่านศาสดามุฮัมมัด(ซล)ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาของประชาคมโลก

ซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ กล่าวว่า  เหตุการณ์ในขณะนี้บ่งชี้ว่า โลหิตมีชัยเหนือคมดาบ  ซึ่งบรรดากองกำลังมุกอมิวัตได้รับแรงบันดาลใจจากท่านอิมามฮุเซ็น(อ)ในการสู้รบกับกลุ่มขบวนการตักฟีรี