farsnews – ในช่วงการปราศรัยของมุฟตีย์สูงสุดซีเรียในรัฐสภาไอร์แลนด์ในกรุงดับลิน ได้เรียกร้องให้ชาติยุโรปอย่าหลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อโจมตีรัฐบาลซีเรีย และควรเดินทางไปยังซีเรียเพื่อดูเหตุการณ์ข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด
เชค อะห์มัด บัดรุดดีน ฮะซูน มุฟตีย์สูงสุดของซีเรีย กล่าวว่าซีเรียต้องจ่ายค่างวดที่หนักอึ้งสำหรับการต่อสู้กับการก่อการร้าย 300,000 กว่าคน ที่มาจากยุโรปและส่วนอื่น ๆ ของโลก
เขากล่าวเสริมว่า สถานบันและศูนย์อิสลามบางแห่งในยุโรปมีการปลุกระดมและสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง “รัฐอิสลาม” ในซีเรีย
เขาเสริมกล่าวว่า สื่อต่างประเทศได้ทำการบิดเบือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรีย และย้ำว่า เจ้าหน้าที่ของชาติยุโรปต้องการเดินทางไปยังประเทศซีเรียด้วยตนเองเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริงในซีเรียอย่างใกล้ชิด
มุฟตีย์สูงสุดของซีเรีย กล่าวว่า ซีเรียต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านในการดับเพลิงไฟไม่ให้ลุกลามไปทั่วโลกและควรจะฟังวาทกรรมของทั้งสองฝ่าย
เขากล่าวเสริมว่า ผู้ก่อการร้ายได้ขุดหลุมศพบุตรชายของฉัน และได้นำเอาศพไปไว้ที่ไหนก็ยังไม่รู้เลย
เขาย้ำว่าซีเรียเป็นประชาชาติหนึ่งเดียวและไม่มีความแตกต่างระหว่างศาสนา และเสริมกล่าวว่า ฉันคือลูกหลานของเมืองอาเลปโป และสมาชิกผู้ก่อการร้ายได้สั่งห้ามฉันไม่ให้เข้าเมืองนี้เมื่อห้าปีก่อนจนถึงวันนี้
เขากล่าวว่า กาตาร์และซาอุดีอาระเบียและกลุ่มติดอาวุธของพวกเขาได้ทำการข่มขู่ฝ่ายค้านซีเรียว่า หากมี เคลื่อนไหวใด ๆที่คัดแย้งกับกลุ่มติดอาวุธแล้วพวกเขาก็จะถูกฆ่า
เขากล่าวเสริมว่า กลุ่มก่อการร้ายยังได้ฆ่าบรรดาเด็กๆชาวคริสต์ในเขตพื้นที่ต่างๆของซีเรียแม้แต่ในวันคริสต์มาสก็ยังไม่ละเว้น
เขาได้กล่าวกับชาติยุโรปว่า หากพวกคุณต้องการความสันติภาพก็จะเดินทางไปยังประเทศซีเรียและพบปะเจรจากับอัสซาดแล้วจากนั้นจึงค่อยตัดสินใจ
มุฟตีย์ซีเรียกล่าวอีกว่า กลุ่มติดอาวุธคือบุคคลที่ใช้อาวุธเคมีสังหารลูกหลานของเรา จากนั้นได้โยนความผิดให้กับรัฐบาลซีเรีย
เขากล่าวย้ำว่า อิหร่านและรัสเซียเข้าในประเทศเพื่อปกป้องซีเรียและต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่มาจาก 80 ประเทศทั่วโลก
มุฟตีย์ซีเรียกล่าวว่า รัสเซียและอิหร่านไม่ได้ดำเนินการใด ๆ กับพลเรือนซีเรียแต่ขณะเดียวกันอยู่เคียงข้างกับทหารซีเรียในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายจำนวน 360,000 คน